จ๊อบส์ ดีบี แนะนำวิธีรับมือกับปัญหาการเมืองในออฟฟิศ ด้วยสารพัดทีเด็ด เน้นพูดน้อย ฟังเยอะ ไม่สร้างศัตรู เอาใจช่วยคนวัยทำงาน ปูทางสู่ความสำเร็จอย่างราบรื่น…

สำหรับ "วัยทำงาน" คงต้องยอมรับว่าการพิสูจน์ตนเองด้วยฝีมือและไอเดียการทำงานนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อีกหนึ่งที่อาจเป็นอุปสรรคแก่การทำงานนั้น คงหนีไม่พ้นเรื่องราววุ่นๆ ภายในสำนักงาน หรือที่พูดกันติดปากว่า...การเมืองในออฟฟิศ!!!

ถ้าออฟฟิศไหนไม่มีเรื่องพวกนี้ ถือว่าประเสริฐที่สุดแล้ว หากคุณต้องเผชิญกับปัญหาลักษณะนี้... ไม่ต้องกังวลให้เสียสุขภาพจิต เพราะบริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการจัดหางานออนไลน์ ได้นำเสนอบทความเพื่อเป็นทางออกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว กับ…"8 วิธีรับมือกับการเมืองในออฟฟิศ" เผื่อจะช่วยให้มนุษย์งานทั้งหลายสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น

รู้เรา
สิ่งสำคัญที่สุดก่อนจะไปใส่ใจคนอื่น คือหัดใส่ใจตัวเองเสียก่อน เตรียมตัวให้ดีตั้งแต่ก่อนเริ่มเข้าทำงานว่าหน้าที่ความรับผิดชอบของเราคืออะไร ต้องรายงานขึ้นตรงกับนายคนไหน พูดง่ายๆ ว่าตรวจความเรียบร้อยของตัวเองพร้อมกับมองหาเพื่อนร่วมงานที่สามารถขอความช่วยเหลือได้ เผื่อว่าเวลามีปัญหาระหว่างการทำงานเกิดขึ้น จะได้รู้ว่าควรหันหน้าไปพึ่งใคร

...


รู้เขา
หมั่นสังเกตนิสัยใจคอของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน เพื่อจะได้รู้ว่าควรเข้าหาใครอย่างไร เพื่อลดปัญหาในการทำงานให้น้อยที่สุด เนื่องจากแต่ละคนมีพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจชอบให้ตามงาน บางคนไม่ชอบ บางคนอาจชอบสั่ง แต่บางคนชอบให้เราเสนอความเห็น อย่ามองข้ามเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ในออฟฟิศ

ไตร่ตรองก่อน...
เพราะออฟฟิศไม่ใช่โรงละคร (ถึงแม้บางครั้งความดราม่าจะไม่แพ้กัน) ก่อนที่จะแสดงความรู้สึกอะไรออกไป ควรทบทวนกับตัวเองก่อนว่า ทำไปแล้วจะมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน การแสดงออกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการพูดอย่างเดียว แต่รวมถึงการแสดงออกทางสีหน้า และกิริยาอื่นๆ ด้วย หากบางทีคุณแสดงออกมากไป อาจทำให้เพื่อนร่วมงานบางคนไม่พอใจกับพฤติกรรมของคุณก็เป็นได้

พูดให้น้อย
ความลับไม่มีในโลกฉันใดก็อย่าพูดเยอะฉันนั้น ไม่ว่าจะไปได้ยินเรื่องราวอะไรต่ออะไรมา ก่อนจะเอ่ยปากเล่าให้ใครฟัง ขอให้คิดให้ดีก่อนว่าเป็นเรื่องที่สมควรเล่าหรือไม่ คนพูดบางทีพูดออกไปแล้วจำไม่ได้ แต่คนฟังพึงระวังไว้ด้วยว่า มีคนจำนวนไม่น้อยได้ยินสิ่งที่คุณพูดอยู่ ซึ่งอาจเป็นการสร้างศัตรูได้โดยไม่รู้ตัว

ฟังให้มาก
เวลามีใครมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ในออฟฟิศ ก็ควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวไตร่ตรองเหตุและผล ก่อนจะปักใจเชื่อ แนะนำว่าควรเลือกฟังแต่สิ่งดีๆ มีประโยชน์ ข้อมูลที่สร้างสรรค์ จรรโลงสังคม และเกี่ยวข้องกับการทำงานจะดีกว่า

อย่าสร้างศัตรู
ความโอบอ้อมอารีเป็นเรื่องสำคัญ การให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานสร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้าง ระมัดระวังคำพูด ไม่ทำตัวเองให้ดูยโสโอหังทั้งกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือผู้ใต้บังคับบัญชา หรือแม้แต่การใช้ชีวิตในแง่มุมใดก็ตาม ข้อที่ควรพึงระวังมากที่สุด คือ อย่าสร้างศัตรู เพราะมิตรที่ดีนั้นหายาก แต่ศัตรูน่ะ...สร้างง่าย!!!

หาพวกไว้บ้าง
ต่อเนื่องกันมาเลย เพราะการสร้างมิตรภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในองค์กรถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการทำงาน โดยเฉพาะในช่วงที่งานของคุณเกิดอุปสรรค ไม่เป็นไปตามที่วางแผน หรือแม้ตอนโดนพายุเฮอร์ริเคนจากเจ้านายซัดเข้าใส่ เพื่อนแท้ในออฟฟิศจะกลายร่างเป็นหน่วยกู้ภัยชั้นดี คอยช่วยเหลือ หรืออาจเป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้เข้าใจเจตนารมณ์อันดีของคุณมากขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้เอ่ยปากร้องขอ...แต่หากมีใจจิตอันดีต่อกัน พวกเขาจะเข้าใจและหยิบยื่นไมตรีมาให้โดยที่คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ


รักสงบ...แต่พร้อมรบตลอดเวลา
เอาเป็นว่าหากทำตามแนวทางทั้ง 7 ข้อข้างต้น แล้วยังหนีไม่พ้นเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนจากการเมืองในออฟฟิศ แนะนำว่า...เมื่อถึงเวลาที่ต้องสู้ ก็อย่าไปกลัว ให้ชี้แจงปัญหาด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ และหาประจักษ์พยานมาเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้พร้อม แต่ทั้งหมดนี้ต้องมั่นใจก่อนว่าเราไม่ผิดจริงๆ ไม่เช่นนั้น...การแก้ข้อกล่าวหา หรือหาหลักฐานมาชี้แจงนั้น อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเสียความน่าเชื่อถืออย่างใหญ่หลวงทีเดียว.