เมื่อปีพุทธศักราช 2563 ที่ผ่านมา The European Centre for Digital Competitiveness ได้จัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศอันดับ 2 ที่มีศักยภาพในการแข่งขันด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยประเทศไทยเองก็กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพการผลิต และนวัตกรรมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่งความพร้อมของตลาดแรงงานเองก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ทรงพลังที่จะขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงและความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
อีกทั้งประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่ประเทศรายได้ปานกลางระดับสูง (upper middle income nation) ก็ยิ่งทำให้ความต้องการแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญการก็ยิ่งทวีความเร่งด่วนขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของแรงงานไทย รวมถึงตอบสนองความต้องการแรงงานคุณภาพสูงขององค์กรและตลาดแรงงานระดับโลก
มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (Singapore Management University) ตระหนักถึงความต้องการนี้เป็นอย่างดีเป็นที่มาของการจัดตั้ง SMU Overseas Centre Bangkok (OCB) ขึ้นในปี พ.ศ.2566 โดยได้รับการแนะนำและสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทย และ คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพให้เกียรตินั่งเป็นประธาน SMU International Advisory Council (Thailand) อีกด้วย
มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (SMU) เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติด้านการวิจัยระดับโลก และการสอนที่โดดเด่น ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2000 เพื่อสร้างผลงานวิจัยแนวหน้าที่มีผลกระทบในระดับสากล ผ่านการผลิตผู้นำที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีอุดมการณ์ทางธุรกิจสำหรับเศรษฐกิจที่ใช้ฐานความรู้
SMU Overseas Centre Bangkok (OCB) ในกรุงเทพฯ หวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงชุมชนของไทย โดยการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ สร้างพันธมิตร ส่งเสริมความร่วมมือในการวิจัย และสนับสนุนการพัฒนาอาชีพ ด้าน คุณซีลิน ควอค ผู้อำนวยการศูนย์ต่างประเทศของ OCB กล่าวว่า “ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคธุรกิจ องค์กรมืออาชีพ และหน่วยงานราชการ ผ่านโปรแกรมการศึกษาเชี่ยวชาญและการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่ามหาวิทยาลัยของเราสามารถส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการฝึกอบรมคุณภาพแรงงานในด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในทักษะที่จำเป็นในประเทศไทยและระดับสากลได้อย่างแน่นอน”
สำหรับผู้นำด้านธุรกิจ
มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (SMU) เองก็ได้มีหลักสูตรหลากหลายที่พัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการไม่ว่าจะสำหรับคนทำงานในองค์กรรวมถึงผู้บริหาร อาทิ
- หลักสูตรปริญญาโท เช่น บริหารธุรกิจ (MBA), บริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหารระดับสูง (Executive MBA) และมหาบัณฑิตเทคโนโลยีในการบริหารธุรกิจ เป็นต้น
- หลักสูตรความยั่งยืนในภาคธุรกิจ (Board Governance and Business Sustainability)
- หลักสูตรการเรียนรู้และการออกแบบตามความต้องการขององค์กรโดย SMU Executive Development และ SMU Academy
โดย SMU Executive Development (SMU ExD) เป็นโปรแกรมสำหรับองค์กรที่ปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นสำหรับบุคลากรและองค์กร โดยใช้หลักสูตรที่ออกแบบอย่างละเอียดซึ่งจะตอบสนองกับความท้าทายของธุรกิจในบริบทของเอเชีย ซึ่ง SMU Academy (SMUA) ก็ได้จัดหลักสูตรตามความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติจริง
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงและนักธุรกิจรุ่นใหม่ในประเทศไทย
หลักสูตร Business Innovations Generator (BIG) ของสถาบันนวัตกรรมและการประกอบการ มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (IIE) เป็นโปรแกรมเน้นการทำงานอย่างเข้มข้น ในระยะเวลา 4 เดือน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทดลองทำธุรกิจ โดยเริ่มต้นไม่ว่าจะเป็นการทำแผนธุรกิจ ปรับปรุง และเตรียมความพร้อมธุรกิจสำหรับนักลงทุน
ความร่วมมือเพื่อความสำเร็จ
มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายสถาบันการศึกษาและวิจัยในประเทศไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อีกทั้ง มหาวิทยาลัยยังร่วมงานกับกลุ่มอุตสาหกรรมท้องถิ่นและสมาคมธุรกิจต่างๆ เช่น สมาคมการจัดการไทย เพื่อร่วมกันในโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการแลกเปลี่ยนความรู้
รวมถึงองค์กรไม่แสวงหากำไร และบริษัทชั้นนำในวงการต่างๆ สำหรับการฝึกงานและกิจกรรมของนักศึกษา อีกด้วย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมของ SMU หรือต้องการสำรวจความร่วมมือ สามารถติดต่อ SMU Overseas Centre Bangkok (OCB) ในกรุงเทพฯ ได้ที่ OCB@smu.edu.sg และหากต้องการข่าวสารและข้อมูลกิจกรรมของ SMU ที่จัดขึ้นในประเทศไทย สามารถติดตาม SMU OCB ได้โดยสแกนรหัส QR ด้านล่างนี้
