แอปเปิล ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ที่แบนการห้ามจำหน่ายสมาร์ทวอตช์จำนวนสองรุ่น นั่นคือ Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ในสหรัฐฯ
ช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ตัดสินใจแบนการจำหน่าย Apple Watch Ultra 2 และ Apple Watch Series 9 ในสหรัฐอเมริกา ตามเรื่องที่ถูกชงโดยคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือ International Trade Centre หลังพบว่า แอปเปิลได้ละเมิดสิทธิบัตรของบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีชื่อว่า Masimo เป็นจำนวนสองฉบับ
Masimo ในฐานะเจ้าของเทคโนโลยี ระบุว่า แอปเปิลได้ว่าจ้างให้พนักงานขโมยเทคโนโลยีการวัดออกซิเจนในเลือด แล้วนำสิ่งนี้ไปรวมเป็นหนึ่งในฟีเจอร์บน Apple Watch
หลังถูกห้ามวางจำหน่าย แอปเปิลได้ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา พร้อมกับมีความตั้งใจว่า จะนำสินค้า Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 กลับมาวางจำหน่ายสู่ท้องตลาดโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ แอปเปิลยังได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวด้วย
...
แอปเปิล ย้ำว่าคำสั่งแบนของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ มีผลเฉพาะ Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 เท่านั้น ในส่วนรุ่นรองอย่าง Apple Watch SE ยังสามารถวางจำหน่ายได้ตามปกติ
ขณะเดียวกัน ลูกค้าที่ซื้อ Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ไปเป็นเจ้าของก่อนหน้าวันที่ 25 ธันวาคม 2023 จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นจากคำสั่งแบนของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาอย่างเบสท์บาย (Best Buy) และแอมะซอน (Amazon) ยังคงหาซื้อทั้งสองโมเดลนี้ได้ตามปกติ
ทางด้านมาตรการที่แอปเปิลจะเลือกใช้เพื่อนำ Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 กลับไปวางจำหน่ายตามเดิม ประกอบด้วยทางกฎหมายและทางเทคนิค โดยทางด้านเทคนิค แอปเปิลได้ให้วิศวกรของบริษัทเร่งมือพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขสิทธิบัตรที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของ Masimo ทั้งสองฉบับ ซึ่งเป็นพื้นฐานการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศที่ได้ดำเนินการแบนการวางจำหน่ายสมาร์ทวอตช์ทั้งสองโมเดลนี้
อย่างไรก็ดี Masimo ให้ความเห็นว่า ลำพังการแก้ไขซอฟต์แวร์ของแอปเปิลไม่น่าเพียงพอ แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของฮาร์ดแวร์ด้วย