ติ๊กต่อก ยกระดับการใช้งานในชุมชน หวังสร้างบรรยากาศที่ดีในการช็อปปิ้ง ระบุห้ามสร้างเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โฆษณาเกินจริง โดยมีบทลงโทษขั้นต้นเริ่มที่ลบสินค้าจากแพลตฟอร์ม ไปจนถึงขั้นสูงสุดคือการดำเนินคดี

TikTok Shop Academy เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของติ๊กต่อก ออกอัปเดตนโยบายการใช้งานครั้งใหม่ โดยเน้นย้ำถึงเรื่องการสร้างเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือ Misleading Content เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มต้องมีความจริงใจต่อการขายสินค้า ไม่แสดงข้อมูลที่เป็นเท็จ และโฆษณาเกินจริง 

ในกรณีที่ครีเอเตอร์ของติ๊กต่อก มีการใช้เนื้อหาที่เป็นเท็จ คำกล่าวอ้างที่เกินจริง จะครอบคลุมทุกรูปแบบทั้งหน้ารายการสินค้าใน TikTok Shop, วิดีโอ และไลฟ์สตรีม ไปจนถึงหน้าปก ลิงก์ และชื่อคลิป เมื่อระบบของติ๊กต่อกตรวจพบ จะถือว่าเป็นเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งหมด

ติ๊กต่อก ได้แบ่งประเภทของเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ 

การแสดงข้อมูลเท็จ - เนื้อหาต้องสอดคล้องกับสินค้าที่ขายจริง ห้ามครีเอเตอร์และผู้ขายแสดงข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดโดยเด็ดขาด 

การกล่าวอ้างเกินจริง - เนื้อหาต้องไม่มีการกล่าวอ้างที่เกินจริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือผลกระทบของสินค้า และต้องไม่กล่าวอ้างว่าเป็น “สินค้าอันดับ 1” หรือมีคำอธิบายที่บอกว่า “ดีที่สุด” หรือ “หนึ่งเดียว” และการกล่าวอ้างเกินจริงว่ารักษาอาการป่วยได้ราวกับปาฏิหาริย์

การกล่าวอ้างเท็จ - เนื้อหาต้องไม่กล่าวอ้างเกินจริงเกี่ยวกับสินค้า การกล่าวอ้างว่าได้รับรางวัลมาโดยไม่ได้แสดงหลักฐานของรางวัล และไม่ดูถูกแบรนด์อื่น 

...

ทางด้านบทลงโทษครีเอเตอร์หรือผู้ขายที่สร้างเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด การดำเนินการบางส่วนที่ถูกบังคับใช้ จะเริ่มตั้งแต่การลบสินค้าออกจากแพลตฟอร์ม, การลบหรือปิดกั้นเนื้อหา, การแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการ, ระงับสิทธิ์ของครีเอเตอร์หรือผู้ขาย, การเพิกถอนสิทธิประโยชน์ของครีเอเตอร์หรือผู้ขายชั่วคราวหรือถาวร และสูงสุดถึงขั้นการแจ้งต่อหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดี

นโยบายโฆษณาที่เกินจริงของติ๊กต่อกมีการบังคับใช้พร้อมกันในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

ดูตัวอย่างเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเพิ่มเติมได้จากที่มาของข่าว.

ที่มา: TikTok