เฟซบุ๊กและเมสเซนเจอร์ ซึ่งแยกออกไปเป็นแอปพลิเคชันเดี่ยว ตั้งแต่ปี 2014 แต่หลังจากนี้ อาจได้เห็นทั้งสองแอปกลับมารวมเป็นหนึ่งเดียว เนื่องจากทิศทางการใช้งานโซเชียลมีเดียของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ย้อนหลังกลับไปในปี 2014 เฟซบุ๊ก ได้ตัดสินใจแยกบริการส่งข้อความ หรือเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ ออกไปจากเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหลัก พร้อมกับรีแบรนด์ใหม่เหลือแค่คำว่า เมสเซนเจอร์ เพียงอย่างเดียว แต่ในอีกเกือบ 10 ปีให้หลัง แนวทางของเมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและเมสเซนเจอร์ มีแนวคิดใหม่ ด้วยการนำทั้งสองบริการกลับมารวมกันอีกครั้งหนึ่ง
ประเด็นดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก ทอม อลิสัน หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ซึ่งเขียนเรื่องนี้ผ่านเว็บบล็อกที่มีชื่อหัวข้อว่า Facebook Today and Tomorrow โดยในช่วงหนึ่งของบล็อก ระบุว่า เฟซบุ๊กกำลังทดสอบการนำเมสเซนเจอร์มาไว้ในบริการของเฟซบุ๊ก
สาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากว่า ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การสนทนาในปัจจุบัน ผู้ใช้งานต้องการแบ่งปันเนื้อหาภายในแชต โดยไม่ต้องมีการสลับปรับเปลี่ยนไปเป็นอีกแอปพลิเคชันหนึ่ง โดยการทดสอบที่ว่านี้ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก และเมสเซนเจอร์ จะได้เห็นในไม่ช้า
...
พร้อมกันนี้ ทอม อลิสัน ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ในความเห็นของเขา เฟซบุ๊กยังคงเป็นบริการที่แข็งแกร่ง ไม่ใกล้เคียงกับการเป็นบริการที่รอวันตาย นั่นเป็นเพราะเฟซบุ๊ก คือ บริการที่มีผู้ใช้งานในวันหนึ่งๆ มากถึง 2 พันล้านคน
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของเฟซบุ๊ก มีความเป็นไปได้ว่า นี่อาจเป็นหนึ่งในแผนที่เฟซบุ๊ก ตั้งใจที่จะกีดกันติ๊กต่อก (TikTok) ซึ่งเป็นคู่แข่งของเมตาในเวลานี้ โดยการทำให้การแบ่งปันเนื้อหา และการเชื่อมต่อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น มีผลทำให้เมตากุมความได้เปรียบในการแข่งขันของสองแอปพลิเคชัน
สำหรับเหตุผลที่ เมตา หรือเฟซบุ๊กในเวลานั้น แยกบริการเฟซบุ๊ก และเมสเซนเจอร์ออกจากกัน เป็นเพราะเฟซบุ๊กอยากให้เมสเซนเจอร์เป็นแอปพลิเคชันแชตที่ดีที่สุด และหลีกเลี่ยงประสบการณ์ใช้งานระหว่างความเป็นโซเชียลมีเดียของเฟซบุ๊ก กับเมสเซนเจอร์ แยกขาดออกจากกัน