แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) เผยผลสำรวจพฤติกรรมและความต้องการของชาวดิจิทัล โนแมด (Digital Nomad) ที่มีจุดมุ่งหมายมายังประเทศไทย โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องสัญญาณไวไฟ พื้นที่การทำงาน รวมถึงบริการซักรีดและครัวเป็นสิ่งสำคัญ

แอร์บีเอ็นบี ผู้ให้บริการด้านการจองที่พัก เปิดเผยผลสำรวจข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับชาวดิจิทัล โนแมด หรือกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก พร้อมกับทำงานในเวลาเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบัน ชาวดิจิทัล โนแมด ได้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางจำนวนมาก

ข้อมูลของแอร์บีเอ็นบีซึ่งอัปเดตล่าสุดในปี 2565 พบว่า ชาวดิจิทัล โนแมด ให้ความสนใจที่จะทำงานในระยะยาวในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ เป็นหลัก

ในเวลาเดียวกัน ดิจิทัล โนแมด ยังมีจุดหมายปลายทางในพื้นที่นอกเมือง และไม่ได้เป็นเมืองใหญ่ เช่น เกาะพะงัน เกาะลันตา และจังหวัดกระบี่ อีกด้วย โดยจำนวนคืนที่จองสำหรับการเช่าห้องพักระยะยาวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 โตขึ้นประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งเป็นห้วงเวลาก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ การจองที่พักในระยะยาว กล่าวคือ เป็นการเข้าพักตั้งแต่ 28 วันขึ้นไป มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 9 เปอร์เซ็นต์ เป็น 12 เปอร์เซ็นต์ จากในปี 2563 และ 2564

สำหรับในประเทศไทย นักเดินทางต่างชาติที่เดินทางคนเดียว หรือ Solo travel มีการค้นหาที่พักระยะยาวในประเทศไทยช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 เพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562

ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่ชาวดิจิทัล โนแมด ให้ความสนใจเป็นพิเศษ มีด้วยกัน 4 อย่าง ได้แก่ พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ และเก้าอี้

...

ต่อมาเป็นเรื่องของบริการซักรีด เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ตามด้วยพื้นที่ทำครัวส่วนตัว เนื่องจากดิจิทัล โนแมด มีความสามารถและต้องการเตรียมอาหารด้วยตัวเอง

สุดท้ายคือเรื่องของสัญญาณไวไฟ (WiFi) เพื่อความสะดวกต่อการทำงาน ปัจจุบัน ถ้าหากโฮสต์ของแอร์บีเอ็นบี มีบริการความเร็วของไวไฟที่เร็วกว่า 50 Mbps ขึ้นไป จะได้รับไอคอน Fast WiFi เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในหน้ารายชื่อที่พัก เพื่อประกอบการตัดสินใจของนักเดินทาง.