มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเมตา ออกโรงชี้แจงถึงความเข้าใจผิด ยืนยันว่าเมตายังคงมุ่งเน้นในธุรกิจโซเชียลมีเดีย ส่วนการลงทุนในเมตาเวิร์สใช้เงินราว 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

เป็นที่ทราบกันดีกว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นผู้ประกาศนโยบายใหม่ของบริษัท จากเดิมที่รู้จักกันในชื่อเฟซบุ๊ก ไปสู่ชื่อใหม่อย่างเมตา เพื่อปูทางไปสู่โลกเมตาเวิร์ส อย่างไรก็ดี ซัคเคอร์เบิร์ก เปิดเผยในงานสัมมนา Dealbook ของนิตยสารนิวยอร์ก ไทมส์ ระบุว่า เมตาเวิร์สไม่ใช่การเดิมพันของเมตา อีกทั้งเมตาเวิร์สไม่ใช่สิ่งส่วนใหญ่ที่เมตากำลังทำอยู่

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวต่อไปว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของการลงทุนของเมตายังอยู่ที่กลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งกลุ่มธุรกิจหลักที่ว่านี้ประกอบไปด้วย เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, วอตส์แอป และเมสเซนเจอร์ รวมถึงธุรกิจด้านโฆษณา

จากนั้นในอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นเงินที่จะใช้ในด้านการลงทุนของเมตาเวิร์ส ผ่านแผนกที่มีชื่อว่า Reality Labs กล่าวโดยสรุปคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยืนยันว่า เมตายังคงปักหลักอยู่กับโซเชียลมีเดีย จนกว่าเมตาเวิร์สจะขยับเข้าใกล้สู่ความเป็นจริงมากขึ้น

ซัคเคอร์เบิร์ก แจกแจงถึงการใช้เงินของ Reality Labs โดยบอกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนด้านเมตาเวิร์สเป็นการปูทางให้กับเทคโนโลยี Virtual reality และอีกครึ่งหนึ่งไปสู่การพัฒนาโครงการในระยะยาวต่างๆ

อย่างไรก็ดี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเมตา กล่าวว่า ทุกคนสามารถถกเถียงกันได้ว่า เงิน 20 เปอร์เซ็นต์ของงบลงทุนทั้งหมดของบริษัท เป็นเงินที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่ แล้วก็ย้ำว่า แต่โดยหลักเมตาก็ยังทำสิ่งอื่นที่สำคัญอยู่ ไม่ได้เน้นแค่เมตาเวิร์สเพียงอย่างเดียว

...

การรีแบรนด์จากเฟซบุ๊กไปเป็นเมตา ส่งผลให้บริษัทใช้งบประมาณไปแล้วเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโปรเจกต์ยักษ์หลายหมื่นล้านอย่างเมตาเวิร์ส

ที่มา: Business Insider