ประธานใหญ่ทีเอสเอ็มซี ผู้ผลิตชิปเซตชั้นนำของโลก เตือนการบุกรุกไต้หวันจะเกิดปัญหาใหญ่ในอุตสาหกรรมชิปเซต ย้ำสงครามไม่มีใครเป็นผู้ชนะ แต่เป็นความพ่ายแพ้ของทุกฝ่าย ตามด้วยความวุ่นวายทางเศรษฐกิจโลก

มาร์ค หลิว ประธานบริษัททีเอสเอ็มซี ผู้ผลิตชิปเซตชั้นนำของโลก ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ในประเด็นสำคัญถ้าหากจีนตัดสินใจเข้ารุกรานไต้หวัน โดย มาร์ค หลิว ยืนยันว่า โรงงานผลิตชิปเซตที่ล้ำหน้าที่สุดของโลกจะไม่สามารถดำเนินงานได้

ทีเอสเอ็มซี เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปเซตซึ่งก่อตั้งในไต้หวัน โดยถือเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปเซตที่มีเทคโนโลยีการผลิตล้ำหน้าที่สุดของโลก รับหน้าที่ผลิตชิปเซตให้กับบริษัทใหญ่ของโลก ทั้งแอปเปิล และ ควอลคอมม์ รวมถึงบริษัทน้อยใหญ่อีกมากมาย จนสามารถกล่าวได้ว่า เป็นผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชิปเซตของโลกก็คงไม่ผิดนัก

ประธานทีเอสเอ็มซี กล่าวว่า การใช้กำลังทางการทหารจะส่งผลให้โรงงานทีเอสเอ็มซี ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ นั่นเป็นเพราะว่า การผลิตชิปเซตถือเป็นการผลิตที่มีความสลับซับซ้อน ต้องอาศัยการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์กับประเทศอื่นพร้อมกันทั่วโลก ทั้งฝั่งยุโรป, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ในด้านวัสดุ, สารเคมี, อะไหล่, วิศวกรรมซอฟต์แวร์ และการวิเคราะห์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

การให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นครั้งนี้ หลิว เน้นย้ำว่า หากเกิดสงคราม และการรุกรานใดๆ ผลลัพธ์ที่ได้ นั่นคือ ไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะ แต่ในทางกลับกันทุกฝ่ายต่างล้วนเป็นผู้พ่ายแพ้ด้วยกันทั้งสิ้น

ในเวลาเดียวกัน ความตึงเครียดระหว่างจีน และ ไต้หวัน ได้เกิดขึ้น ภายหลังแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มาเยือนไต้หวัน ในช่วงดึกตามเวลาประเทศไทย

...

หลิว กล่าวต่อไปว่า ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในไต้หวัน กับการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย แม้ความขัดแย้งทั้งสองจะแตกต่างกันมาก แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมีความคล้ายคลึงกัน โดยหลิวอยากให้ผู้นำทางการเมืองหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามทุกกรณี

ประธานของทีเอสเอ็มซี เสริมว่า การบุกรุกดินแดนทำให้เกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจทั้งจีน และไต้หวัน รวมถึงชาติตะวันตก นอกจากนี้ ทีเอสเอ็มซี ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายชิปเซตให้กับบริษัทไอทีของจีนอีกด้วย

ที่มา: CNBC