พนักงานจากเมืองอามางาซากิ ทำ USB ซึ่งภายในบรรจุข้อมูลส่วนตัวของคนในเมืองทั้งชื่อ, ที่อยู่, วันเกิด และข้อมูลทางภาษี ราว 4.6 แสนคนสูญหาย ระหว่างการเที่ยวกลางคืน

ตัวแทนของเมืองอามางาซากิ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ออกมาขอโทษชาวเมือง ภายหลังพนักงานคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทเอกชนที่ได้รับการว่าจ้างให้ดูแลการจ่ายเงินบรรเทาจากสถานการณ์โควิด-19 ให้กับครัวเรือนต่างๆ จากนั้นเขาได้นำแฟลชไดรฟ์จากสำนักงานของเมืองไปโอนข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูล

เมื่อปฏิบัติงานเสร็จสิ้น พนักงานคนดังกล่าวได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในช่วงดึกของคืนวันอังคาร เมื่อออกจากร้านไปสักพัก ในระหว่างทางกลับบ้าน เขานึกขึ้นได้ว่า กระเป๋าที่ใส่แฟลชไดรฟ์หายไป ซึ่งภายในนั้นมีข้อมูลส่วนบุคคลกว่าครึ่งล้านคนภายในเมืองสูญหาย ก่อนที่จะไปแจ้งตำรวจในช่วงเช้าวันพุธ

ข้อมูลที่สูญหายไปประกอบไปด้วยข้อมูลทางภาษี, ชื่อ, ที่อยู่, วันเกิด, หมายเลขบัญชีธนาคาร และสวัสดิการของชาวเมืองอามางาซากิราว 4.6 แสนคน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดในแฟลชไดรฟ์มีการเข้ารหัส และมีการยืนยันด้วยรหัสผ่าน ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีรายงานเรื่องข้อมูลรั่วไหลออกมา

ทางด้านเจ้าหน้าที่ของเมืองอามางาซากิ ออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ได้ทำลายความไว้วางใจของชาวเมือง อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่า จะพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อชาวเมือง โดยเพิ่มความตระหนักในความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้มากยิ่งขึ้น

ที่น่าสนใจก็คือจากประเด็นที่เกิดขึ้นในเมืองอามางาซากิ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า ในแต่ละเมืองของประเทศญี่ปุ่นยังมีการใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัยอยู่ ซึ่งนั่นรวมถึงข่าวที่หลายหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่น เพิ่งตระหนักถึงการยกเลิกการใช้งาน Internet Explorer ก่อนที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) จะปิดการให้บริการ

...

ที่มา: The Guardian