PUBG Mobile อยู่ในรายชื่อแบนของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งเป็นเกมที่มีชาวอินเดียเล่นประจำกว่า 50 ล้านคน
PUBG Mobile ในอินเดีย ไม่ได้เป็นแค่เกม แต่ยังเป็นอาชีพที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนจำนวนมาก
การแบนแอปพลิเคชันจากประเทศจีน ทำให้เกิดแอปที่คล้ายกันโดยนักพัฒนาแอปชาวอินเดีย
เกมเมอร์ชาวอินเดียใจตกลงไปถึงตาตุ่ม ภายหลังรัฐบาลอินเดียประกาศ “แบน” แอปพลิเคชันที่มาจากประเทศจีน เป็นครั้งที่ 3 จำนวน 108 แอปพลิเคชัน ซึ่งการแบนในหนนี้ มีแอปเกมชื่อดังอย่าง PUBG Mobile รวมอยู่ด้วย
รัฐบาลอินเดีย ให้เหตุผลในการแบนครั้งนี้ว่า เนื่องจากแอปพลิเคชันที่มาจากประเทศจีน มีการละเมิดอธิปไตยของอินเดีย โดยเฉพาะการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่นอกประเทศอินเดีย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างอินเดียและจีน ปฐมเหตุมาจากกรณีที่อินเดียสร้างถนนบริเวณเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริง (Line of Actual Control) ซึ่งการสร้างถนนเส้นนั้น ได้สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลจีนเป็นอย่างมาก เพราะจีนเชื่อว่า ถนนเส้นดังกล่าวจะสั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาลจีน จึงสั่งเคลื่อนพลประชิดบริเวณดังกล่าว แม้ที่ผ่านมาจะมีการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป
ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่า การแบนแอปพลิเคชัน ได้สร้างความเดือดร้อนในวงกว้างอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนเล่นเกมทุกระดับ ทั้งในกลุ่มของผู้เล่นเกมทั่วไป คนทั่วไปที่สนใจในเกมนี้ ผู้เล่นเกมระดับโปรเพลเยอร์ ไปจนถึงธุรกิจการแข่งขันอีสปอร์ต ที่มีเกม PUBG Mobile เป็นศูนย์กลาง
ดังนั้น เป้าหมายในบทความนี้ จึงเป็นการชวนหาคำตอบว่า การที่ PUBG Mobile ถูกแบน จะส่งผลกระทบอย่างไร และกับใครบ้าง
...
ทำความรู้จัก PUBG Mobile
PUBG หรือ PlayerUnknown's Battlegrounds เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม ปี 2017 พัฒนาโดย PUBG Corporation มีแพลตฟอร์มหลักๆ อยู่ที่ PC, Xbox One และ PlayStation 4 ตัวเกมเป็นแนว Battle Royal กล่าวคือ ต้องสู้กันจนกว่าจะมีผู้ชนะ ซึ่งภายหลังการเปิดตัวได้ไม่นาน ตัวเกมก็ได้ความนิยมไปทั่วโลก
ด้วยความที่ตัวเกมมีความใหม่ในแง่รูปแบบการเล่น จึงเกิดปรากฏการณ์ PUBG Fever มีเซเลบริตี้สายเกมหน้าใหม่ ที่เติบโตจาก PUBG ทั้งในฐานะยูทูบเบอร์ (YouTuber) สตรีมเมอร์ (Steamer) และนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ ก่อนที่ PUBG จะขยายแพลตฟอร์มไปเป็นเกมบนสมาร์ทโฟน ภายใต้ชื่อ PUBG Mobile ดูแลโดยเทนเซ็นต์ เกม (Tencent Game)
PUBG Mobile ภายใต้ธงนำของเทนเซ็นต์ เกม ทำให้แฟรนไชส์ PUBG ขยายฐานผู้เล่นไปได้กว้างไกลขึ้น โดยข้อมูลจาก SenSor Tower เปิดเผยว่า ยอดดาวน์โหลด PUBG Mobile อยู่ที่ 175 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่ชาวอินเดียเล่นนี้ ราว 50 ล้านคนเลยทีเดียว
เกมที่ไม่ใช่แค่เกม
เมื่อมีจำนวนผู้เล่นหลายสิบล้านคน ทำให้ PUBG Mobile กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจอีสปอร์ตของประเทศอินเดีย การแข่งขันเกิดขึ้นในทุกระดับ ตั้งแต่การแข่งขันระดับทัวร์นาเมนต์เล็กๆ ชิงเงินรางวัลไม่กี่หมื่นรูปี ไปจนถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่หลักล้านรูปีก็มี โดยรายการใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ ก็คือ PUBG Mobile India Series เมื่อปี 2019 เงินรางวัลของผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์นี้ สูงถึง 1 ล้านรูปี
ข้อมูลของ Esports Observer เว็บไซต์พอร์ทัลด้านอีสปอร์ต เผยข้อมูลไปในทางเดียวกันว่า ในปี 2019 เงินรางวัลของ PUBG Mobile ในประเทศอินเดีย คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ ของเงินรางวัลทุกทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ตของประเทศอินเดีย
ตามที่เรียนไว้ข้างต้น นั่นจึงหมายความว่า ทุกองคาพยพที่วนเวียนเกี่ยวข้องกับ PUBG Mobile สามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ที่ไปประเมินค่าไม่ได้ ตั้งแต่ส่วนของยูทูบเบอร์ที่เล่น PUBG Mobile แล้วนำไฟล์ที่เล่นไปอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์ยูทูบ
...
ขณะเดียวกัน นักกีฬาอีสปอร์ตของเกม PUBG Mobile โดยเฉพาะส่วนของนักกีฬาระดับสูง (Elite Player) มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า นักกีฬากลุ่มนี้ ได้รับเงินเดือนอย่างต่ำ 1 แสนรูปีต่อเดือน นอกเหนือจากนี้ ยังมีช่องทางเพิ่มรายรับอีกนับไม่ถ้วน ทั้งการเป็นยูทูบเบอร์, สตรีมเมอร์, ระบบเมมเบอร์ชิป เพื่อให้แฟนคลับมาร่วมเล่นเกมกับนักกีฬาอาชีพคนนั้นๆ โดยคิดค่าสมัครสมาชิกเป็นรายเดือน รวมถึงการเปิดรับโฆษณาสปอนเซอร์ส่วนตัว
แบน PUBG Mobile คือ ระเบิดลูกใหญ่
สำนักข่าว Times of India ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักกีฬาอีสปอร์ตชาวอินเดียจำนวนหนึ่ง ถึงคำสั่งแบน PUBG ของรัฐบาลอินเดีย โดยส่วนใหญ่นักกีฬามีความเป็นกังวลตั้งแต่เมื่อครั้งที่รัฐบาลอินเดีย สั่งแบนแอปพลิเคชันจากจีนระลอกแรก ซึ่งคราวนั้น TikTok แอปพลิเคชันยอดนิยมอยู่ในรายชื่อแบนด้วย
อย่างไรก็ตาม การแบนในระลอกต่อมา ไม่มีรายชื่อของ PUBG Mobile ทำให้ผู้เล่นบางส่วนรู้สึกเบาใจขึ้น แต่ในท้ายที่สุดเมื่อมีการแบนครั้งที่สาม PUBG Mobile ไม่สามารถเอาตัวรอดได้เหมือนสองครั้งก่อนหน้านี้ มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ต่างจากการเกิดระเบิดลูกใหญ่ ขึ้นกลางใจของนักเล่นเกม ก็ว่าได้
นักกีฬามืออาชีพ ให้ความเห็นว่า สำหรับคนภายนอกที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็คงมองว่า เกมมันก็คือเกม แต่ในมุมมองของยูทูบเบอร์ เกมเมอร์มืออาชีพ ผู้จัดการแข่งขัน ตลอดจนทีมงานตัวเล็กๆ ที่เป็นฟันเฟืองอยู่เบื้องหลังการจัดการแข่งขัน ไม่มีทางที่จะรู้สึกแบบนั้น เพราะเกมคืออาชีพ ไม่มีเกม ไม่มีรายได้ ไม่มีการแข่งขันก็ไม่มีเงินจุนเจือเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
เมื่อมองให้ลึกลงไป การแบนเกมเท่ากับว่า เป็นการลั่นดาลโอกาสที่นักกีฬาอินเดีย จะได้ยืนเป็นส่วนหนึ่งบนเวทีโลกเรียบร้อยแล้ว
...
ประตูทางออก
การแบนแอปพลิเคชันที่มาจากประเทศจีน ส่งผลให้แอปพลิเคชันที่เป็นผลิตผลจากนักพัฒนาชาวอินเดียถูกหยิบมาเป็นตัวเลือกทดแทนมากขึ้น เริ่มจากแอปพลิเคชัน TikTok ที่ถูกแบนไปในระลอกแรก ได้เกิดแอปอย่าง Moj, Roposo และ Chingari ขึ้นมาทดแทน
ในส่วนของ PUBG Mobile ก็มี FAU-G: Fearless And United Guards เสนอตัวมาเป็นทางเลือกให้กับผู้เล่น ไปจนถึงเกมที่ไม่อยู่ในข่ายที่ถูกแบนอย่าง Free Fire และ Call of Duty Mobile ก็ใช้โอกาสนี้ ตีตลาดเพื่อหวังเป็นที่หนึ่งในใจของเกมเมอร์
ทั้งหมดจึงกล่าวได้ว่า คนที่ได้รับผลประโยชน์ (พอสมควร) จากการแบนแอปจีน ของรัฐบาลอินเดีย ก็คือ นักพัฒนาแอปชาวอินเดีย นั่นเอง
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายเทนเซ็นต์ เกม ไม่อยากตกเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลอินเดีย โดยเป็นฝ่ายถอย พร้อมกับให้สิทธิ์แก่ PUBG Corpoartion ซึ่งเป็นผู้พัฒนา PUBG บน PC, Xbox One, PlayStation 4 และ Google Stadia เป็นผู้ดูแล PUBG Mobile ในอินเดียแทน
...
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ทุกอย่างยังเงียบงัน ไร้การตอบรับจากผู้ถืออำนาจ
ถึงที่สุดแล้ว การแบน PUBG Mobile เป็นฝันร้ายของเกมเมอร์อินเดียไม่ผิดแน่ แต่ต้องไม่ลืมว่า ไม่มีใครคนไหนที่ติดอยู่ในฝันร้ายไปตลอดกาล การตื่นขึ้นมาแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย หาเกมอื่นมาเล่นแทน ล้วนเป็นสิ่งที่ทำได้แน่นอน ตามเจตจำนงของเกมเมอร์
ผู้เขียน: Wiwat Rungsaensuksakul
กราฟิก: Supassara Traiyansuwan