เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “แอปเปิล” ได้จัดงานเปิดตัวธุรกิจบริการบอกรับสมาชิกแบบเสียเงิน ซึ่งดูเผินๆแล้วความน่าสนใจน้อยกว่าทุกครั้งที่มีการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ๆอย่าง “ไอโฟน” รุ่นใหม่ แต่เมื่อมองลึกลงไปแล้ว อาจจะเป็น game changer หรือตัวเปลี่ยนเกม พลิกเป็นผู้ชนะ คำศัพท์ยอดนิยมในธุรกิจปัจจุบัน อาจจะเหมือนเป็นการเริ่มต้นธุรกิจเหมือนการบุกตลาดสมาร์ทโฟนเมื่อ 11 ปีที่ผ่านมาก็เป็นได้

ซึ่งแน่นอนว่าแพลตฟอร์มในธุรกิจบริการบอกรับสมาชิกหลายๆธุรกิจ และธุรกิจบัตรเครดิตทั้งหลายจะต้องเร่งปรับตัวกัน นับเป็นการเสริมฐานธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภายใต้ความกดดันที่ธุรกิจฮาร์ดแวร์ หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่ธุรกิจเริ่มมีอัตราการเติบโตธุรกิจที่ถดถอย คู่แข่งมากขึ้น มีการแข่งขันรุนแรง จนมีหลายๆคนมองว่า “แอปเปิล” จะเดินหน้าต่ออย่างไรภายใต้สถานการณ์ที่กดดันนี้ นี่จึงเป็นคำตอบ

...

เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว Apple TV+ เป็นบริการวิดีโอสตรีมมิงแบบเสียเงิน นับเป็นการรอคอยหลายปี หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ได้ทุ่มงบประมาณลงทุนไปนับพันล้านดอลลาร์กับการกระโดดเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงฮอลลีวูด แม้ว่าจะไม่ใช่ธุรกิจใหม่ มีคู่แข่งที่ให้บริการอยู่และทำได้ดีอยู่แล้ว อย่าง Netflix ประสบความสำเร็จสูงมากในตลาดประเทศไทย

แต่เมื่อดูการเปิดตัวนี้แล้วนับว่าไม่ธรรมดาเอามากๆ เพราะเอามือระดับปรมาจารย์ในวงการมาทำรายการบันเทิงและสารคดีแบบเอกซ์คลูซีฟ เตรียมเปิดตัวให้บริการมากกว่า 100 ประเทศในปลายปีนี้ ส่วนค่าสมาชิกจะประกาศอีกครั้ง และที่เข้ามาร่วมเปิดตัวสร้างความฮือฮาได้มากทีเดียว อย่างเช่น “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ระบุว่า เข้ามาร่วมงานกับแอปเปิลเป็นครั้งแรก ประกาศปัดฝุ่น สร้างทีวีซีรีส์คลาสสิกเรื่อง “Amazing Stories”

“รีส วิเธอร์สปูน”, “เจนนิเฟอร์ อนิสตัน” และ “สตีฟ คาเรล” ประกาศละครดราม่า “The Morning Show” “อัลฟริ วูดาร์ด” และ “เจสัน โมเมา” ละครแนวไซ-ไฟ เรื่อง “See” “กุมาร นานเจียนิ” ดาราลูกครึ่งปากีสถาน-สหรัฐฯ สร้างซีรีส์เกี่ยวกับผู้อพยพ “Little America” และ “โอปรา วินฟรี” ประกาศสร้างรายการสารคดีใหม่ 2 เรื่อง เป็นต้น ทางแอปเปิลยืนยันว่า Apple TV+ จะเป็นพื้นที่สำหรับรายการพิเศษ เปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่คนรักทีวีและภาพยนตร์
ไม่เคยชมที่ไหนมาก่อน

นอกจากนี้ ในส่วนของ Apple TV จะมีการอัปเดตครั้งใหญ่ในเดือน พ.ค.นี้ พร้อมวิธีการใหม่ๆในการค้นหาและรับชมรายการ ภาพยนตร์ กีฬา ข่าวสารมากมายครบครันในแอปพลิเคชันเดียว ใช้งานได้ทั้งบนไอโฟน, ไอแพด, แอปเปิลทีวี, คอมพิวเตอร์แมค, สมาร์ททีวีและอุปกรณ์สตรีมอื่นๆ ผู้ใช้สามารถบอกรับสมาชิกและช่องรายการใหม่ๆบน Apple TV ได้โดยเลือกจ่ายเงินเฉพาะบริการที่ต้องการเท่านั้น เช่น HBO, SHOWTIME และ Starz เพื่อรับชมได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

สำหรับ Apple Arcade บริการเล่นเกมแบบสมัครสมาชิกที่มีเกมใหม่และเกมเอกซ์คลูซีฟใหม่ให้เล่นกว่า 100 เกม เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้กว่า 150 ประเทศ โดยแสดงอยู่ในแท็บใหม่บน App Store สำหรับ iOS, macOS และ tvOS ซึ่งใน App Store มีเกมทั้งแบบฟรีและเสียเงินร่วม 300,000 เกม ให้ผู้เล่นเกมกว่าพันล้านคนเข้าถึงได้ จะเป็นส่วนเติมเต็มที่จะช่วยให้คลังเกมฟรียอดนิยมที่ใหญ่อยู่แล้วของ App Store สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

...

ส่วนอีก 2 บริการแม้ว่ายังไม่มีแผนการเปิดตัวให้บริการในประเทศไทย แต่ก็น่าสนใจคือ สำหรับบริการ Apple News+ ได้รวบรวมนิตยสารยอดนิยมกว่า 300 ฉบับ รวมถึงหนังสือพิมพ์ชั้นนำและผู้จัดพิมพ์ดิจิทัลไว้ในแอปพลิเคชันนี้ นำเสนอนิตยสารในรูปแบบที่มีการออกแบบอย่างมีสไตล์ครอบคลุมการเคลื่อนไหวการถ่ายภาพที่สดใสและการพิมพ์ตัวหนาที่เหมาะสำหรับไอโฟน, ไอแพด และแมค ให้บริการแล้ววันนี้ในสหรัฐอเมริกา ในราคา 9.99 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน

ท้ายสุด Apple Card เป็นบัตรเครดิตรูปแบบใหม่โดย “แอปเปิล” สร้างขึ้นบนความเรียบง่ายโปร่งใสและความเป็นส่วนตัว เป็นบัตรสีไทเทเนียม ระบุแค่ชื่อและนามสกุลบนบัตรเท่านั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น ออกแบบมาสำหรับไอโฟนและสร้างขึ้นในแอป Apple Wallet มีจุดเด่นเป็นบัตรใบแรกที่กระตุ้นให้ลูกค้าชำระดอกเบี้ยน้อยลงและไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมทั้งหมด เป้าหมายคือการให้อัตราดอกเบี้ยแก่ลูกค้าแต่ละรายซึ่งต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม พร้อมกับโปรแกรมรางวัลที่ชัดเจนและน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วย Daily Cash ซึ่งจะให้เปอร์เซ็นต์ของการซื้อทุกครั้งเป็นเงินสดจากบัตร Apple Cash มอบส่วนลดให้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์แอปเปิล 3% หากใช้จ่ายผ่าน Apple Pay ให้ส่วนลด 2% และให้ Cash Back 1%

ทุกบริการที่จะเกิดขึ้นนี้ ลูกค้าจะมีความเป็นส่วนตัว โดยแอปเปิลที่ไม่ทราบว่าทำอะไรอยู่ ดูอะไร ซื้ออะไร ใช้จ่ายไปเท่าไร ไม่มีโฆษณาสร้างความรำคาญ ไม่มีการซื้อเพิ่มเติม พร้อมการแบ่งปันความบันเทิงในครอบครัวได้.