นายกแม่บ้านมหาดไทย ประกาศความสำเร็จการเริ่มต้น "กิจกรรมปลอดคาร์บอน" พร้อมเตรียมซื้อคาร์บอนเครดิต จากถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม

วันที่ 6 ก.ค. 2567 ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เผยถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับประเทศไทยและโลกใบเดียวนี้ ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน และได้ประกาศความสำเร็จการจัดการขยะอาหารจากครัวเรือน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และบรรลุเป้าหมายประเทศไทยที่ยั่งยืน ซึ่งได้มีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2566 จำนวน 3,140 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในราคา 260 บาท/ตัน เป็นเงิน 816,400 บาท และการซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 จำนวน 9,205 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เป็นเงิน 2,393,300 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ทำให้ปัจจุบันสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างแรงจูงใจให้พี่น้องประชาชนได้ภาคภูมิใจว่าการเป็นคนดีของโลกด้วยการจัดการขยะสามารถแปลงให้กลายเป็นทุนแล้วกว่า 3.2 ล้านบาท โดยเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ได้กลับไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำแนกเป็นรายครัวเรือนที่ได้เข้าร่วมการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนและได้รับการประเมินปริมาณจากองค์กรภายนอกตามหลักวิชาการ และขณะนี้ยังคงเหลือปริมาณคาร์บอนเครดิตจากโครงการฯ อีก 76,098 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

...

ที่ผ่านมาในการรณรงค์ให้ทุกภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันให้ความสำคัญกับการจัดการเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนในทุกกิจกรรมขององค์กรและหน่วยงานนั้น สมาคมแม่บ้านมหาดไทยก็เช่นกัน ได้มีการดำเนินกิจกรรมของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ให้ความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการจัดกิจกรรมอีเวนต์ต่างๆ เช่น การประชุม สัมมนา ต่างก็มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันจะส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน 

ทั้งนี้ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงได้มีแนวคิด การจัดกิจกรรมปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral Event) โดยเริ่มดำเนินการครั้งแรกผ่านกิจกรรม งานประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร 4 ภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยจากการคำนวณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าจากงานประชุมฯ คิดเป็น 171 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) จำแนกเป็นการจัดประชุมในแต่ละภูมิภาค ได้แก่

ครั้งที่ 1 การประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร (ภาคกลางและตะวันออก) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–19 ม.ค. 2567 ณ โรงแรมจอมเทียน ปาล์ม บีช โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 379 คน คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 14 tCO2e คิดเป็นค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคนเท่ากับ 0.04 tCO2e

ครั้งที่ 2 การประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร (ภาคเหนือ) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-2 ก.พ. 2567 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 311 คน คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 38 tCO2e คิดเป็นค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคนเท่ากับ 0.12 tCO2e

ครั้งที่ 3 การประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร (ภาคใต้) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–16 ก.พ. 2567 ณ โรงแรม รอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จังหวัดภูเก็ต มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 282 คน คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 62 tCO2e คิดเป็นค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคนเท่ากับ 0.22 tCO2e และครั้งที่ 4 การประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. 2567 ณ โรงแรมเทพนคร จังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 483 คน คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 57 tCO2e คิดเป็นค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคนเท่ากับ 0.12 tCO2e

ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยจากปริมาณรวมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 171 tCO2e จากการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร 4 ภาคดังกล่าวนี้ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย จะดำเนินการซื้อคาร์บอนเครดิตจากโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ภายใต้แผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนจังหวัดสะอาด ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) 

นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้มีแผนจะนำข้อมูลการจัดกิจกรรมในปีนี้ เป็นแนวทางในการปรับ/เปลี่ยน/ลด ในส่วนที่ไม่จำเป็น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ ที่จะจัดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงกิจกรรมของชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด และชมรมแม่บ้านกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป.

...