สรุปประเด็น "บอสพอล" ในรายการ "THE STANDARD NOW" ยัน "คน" ไม่ใช่สินค้าของดิไอคอนฯ ปัญหาเกิดจากแม่ทีมสื่อสารผิดเพี้ยน

สรุปประเด็น "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ The iCon Group พร้อมทนายความ เผชิญหน้าผู้เสียหายอีกครั้ง ในรายการ "THE STANDARD NOW" เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 67 พร้อมตอบทุกคำถาม โดยมี นายนิติธร แก้วโต ทนายความ ที่มาเป็นคนกลาง ร่วมรายการด้วย

  • ที่ไปโหนกระแส เพราะอยากไปรับทราบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เนื่องจากเป็นเคสที่เปราะบาง พอรู้แล้ว ก็เสียใจ ที่ว่าทำไมเราไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่พอรู้แล้วก็เข้าใจว่า สำหรับบางคนเป็นเรื่องใหญ่ บางคนซื้อของมาแล้วขายไม่ได้ จนนำไปสู่เหตุการณ์บางอย่าง 
  • ได้มีการเยียวยาผู้เสียหายที่เจอในรายการไปแล้วทั้งหมด ส่วนที่อยู่ด้านนอก ต้องมาแยกแยะด้วยข้อเท็จจริงอีกครั้ง
  • ในรายการ บอสพอล มีการถามคำถามกับผู้เสียหายเป็นระยะ ทำให้คนในโซเชียลที่เข้ามาดูรายการหลายคนมองว่า ท่าทีต่างกับการไปออกรายการ ไม่เหมือนรายการเมื่อกลางวัน 
  • บอสพอล ยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องที่มีทีมอบรม แจ้งกับผู้เสียหายว่า หากเปิดบิลที่ 25,000 บาท จะต้องหาลูกค้าเอง แต่หากเปิดบิล 250,000 บาท จะมีคนหารายชื่อลูกค้ามาให้ เสมือนขึ้นเครื่องบินด่วน 
  • บอสพอล ยอมรับสั้นๆ ว่า เคยได้ยิน เกี่ยวกับเรื่องที่ต้องจ่ายเงินให้แม่ทีมยิงแอด ครั้งละ 2,500-2,600 บาท แต่ไม่ใช่วิธีการที่กำหนดได้ เพราะตนขายสินค้าให้ไปแล้ว ก็เป็นสิทธิที่เขาจะนำสินค้าไปขายตามช่องทางต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม TikTok หรือร้านส่วนตัว เป็นไปได้ที่ว่าแม่ทีมอาจจะบอกไม่หมด ขณะที่ผู้เสียหายเข้าใจว่า เงินที่จ่ายไป 250,000 บาทนั้น จบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยิงแอด หรือหาคนมาซื้อสินค้าให้ 

...

  • ผู้เสียหายนำข้อมูลที่แม่ทีม ส่งมาให้ดู โดยเชื่อว่ายอดขายของสินค้าชิ้นหนึ่งจะโตขึ้นปีละ 20% ทางทนายบอกว่า ได้คุยกับทีมงานแล้ว พบว่าเป็นตัวอย่าง และการพยากรณ์ ซึ่งบอสพอล และทนาย เสริมว่า ไม่ได้เป็นการการันตี เพราะอาจจะได้มากกว่า หรือน้อยกว่าก็ได้ แต่ทางผู้เสียหายถามกลับว่า เหมือนเป็นการขายฝันหรือไม่
  • ผู้เสียหาย อ้างว่าไม่ได้จบที่การจ่าย 250,000 บาท แต่มีการเสียค่ายิงแอด ที่ไม่ได้มีการแจ้งไว้แต่แรก เมื่อถามว่าแน่ใจได้อย่างไรว่า เงินที่จ่ายให้แม่ทีมครั้งละหลายพัน แม่ทีมจะนำไปยิงแอด บอสพอล บอกว่า ขึ้นอยู่กับความเชื่อใจอย่างเดียว 
  • บอสพอล บอกว่า นโยบายของบริษัทคือ การหาสินค้าที่ดีไว้ เตรียมระบบขนส่ง การจัดการคลังสินค้า ระบบการเทรนนิ่ง การขาย ฯลฯ
  • ทางพิธีกรถามว่า ในฐานะหัวเรือใหญ่ของบริษัท จะปฏิเสธว่าไม่รู้ ไม่เห็นในสิ่งที่ผู้เสียหายสะท้อนออกมา โดยบอสพอล ยืนยันว่า ไม่รู้จริงๆ เพราะตัวแทนจำหน่ายมีประมาณ 4 แสนคน เมื่อเราขายสินค้าให้ในแต่ละกลุ่ม ก็มีการทำการตลาดคนละอย่าง เราก็ไม่สามารถตรวจได้ทุกกลุ่ม แต่ถ้าแจ้งเข้ามา เราก็จะแก้ให้ ถ้ามีเคสที่รู้ ก็จะไปจัดการ
  • ผู้เสียหายถามว่า คอร์ส 97 ที่ทำขึ้นมานั้น ต้องการให้ความรู้คน หรือต้องการคนเข้ามาเป็นตัวแทน บอสพอล ตอบว่า ส่วนตัวเคยถูกเชิญเข้าไปอยู่ในคอร์ส ให้เข้าไปพูดถึงความพร้อมของบริษัท และพูดถึงตัวสินค้า ซึ่งต้องดูว่าเวลาทั้งหมดของคอร์ส มีการสอนเท่าไร tie-in เท่าไร ถ้าสอนมากกว่า คือการสอนออนไลน์ แต่อาจจะแฝง tie-in
  • ทนายบอสพอล เสริมว่า นโยบายบริษัท คือการขายสินค้า แต่ไม่ได้ขายค่าสมาชิก เป็นการขายส่งที่ให้ตัวแทนนำสินค้าไปขายให้ได้มากที่สุด
  • เมื่อถามว่าแม่ทีมเน้นหาคน บอสพอล อ้างว่า ไม่ทราบ และธุรกิจดิไอคอนฯ ไม่ใช่ขายตรง แต่เป็นการตลาดแบบตรง 
  • เมื่อถามว่า "คน" คือสินค้าของดิไอคอน บอสพอล บอกว่า เราได้เห็นมันไปผิดเพี้ยนแบบนี้ ขณะที่ผู้เสียหายถามกลับว่า ถ้าคำสอนผิดเพี้ยนจะรับผิดชอบอย่างไร ทางบอสพอล ตอบว่า ถ้าคำสอนที่ผิดเพี้ยนเป็นเรื่องส่วนบุคคล ถ้ามีปัญหาเยียวยาจะช่วยอยู่แล้ว แต่นี่คนละประเด็นกัน
  • ผู้เสียหายถามอีกว่า แล้วที่ผิดเพี้ยน ก็มาจากทีมงานดิไอคอนฯ ในฐานะบอสใหญ่ จะรับผิดชอบ หรือจัดการอย่างไร บอสพอล บอกว่า ก็ต้องลงมาหาข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรม แต่ต้องเข้าใจ เพราะตนเหมือนอยู่ตรงกลาง ต้องดูทั้งสองฝ่ายว่าที่เขากล่าวหาว่าทำผิดมีหลักฐานแบบนี้ ถ้ามีหลักฐานว่าเขาทำก็ตัดสัญญาตัวแทนจำหน่ายเลย
  • ผู้เสียหาย ยอมรับว่า รู้สึกผิดหวังในคำตอบของ บอสพอล ที่ไม่ได้อยู่ข้างผู้เสียหายจริงๆ เพราะไม่มีใครรู้ว่า วันข้างหน้าจะต้องถูกหลอก แต่กลับถามว่า ได้แคปหลักฐานไว้หรือไม่
  • ในฐานะหัวเรือใหญ่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เมื่อรู้แล้วจะรับผิดชอบอย่างไร บอสพอล บอกว่า แม้จะเป็นสิ่งที่แม่ทีมทำ วันนี้เราต้องแยกแยะก่อนว่านี่คือสิ่งที่แม่ทีมกระทำ แต่คนรับผิดชอบคือผมอยู่แล้ว ไม่มีทางให้แม่ทีมไปจ่ายตัง เพราะเขาคือทีมงาน ต่อให้แม่ทีมทำก็เหมือนผมทำ ผมต้องเป็นคนดูแลเอง 
  • กำไรของดิไอคอนฯ ได้มาจากการขายสินค้า ซื้อของไปแล้ว ก็ต้องขายของ ไม่ใช่การหา "คน" 
  • การเลือกนักแสดงมาเป็นผู้บริหารนั้น เริ่มมาจากการเป็นพรีเซนเตอร์ แต่หากดูนิสัยใจคอ บวกความสามารถแล้ว ก็จะขออนุญาตให้เพิ่มเติมในส่วนนั้นๆ ซึ่งการรับรายได้ ก็จะต่างออกไป
  • กันต์ - แซม - มิน มีรายได้จากส่วนแบ่งของการขายสินค้าด้วย เพราะเป็นพรีเซนเตอร์มากกว่า 1 ปี 
  • บอส ที่ไปเดินสายออกรายการต่างๆ ไม่ใช่นโยบายของบริษัท ที่ไม่ได้บอกให้ทำแบบนี้ ซึ่งเขาออกเงินกันเอง ไม่ใช่เป็นเงินของบริษัท
  • หลังจากนี้ ดิไอคอนฯ ไม่เปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีกแล้ว เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด ส่วนเรื่องเยียวยา ก็ต้องมาคุยกัน

ที่มาจาก THE STANDARD NOW