ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ปมฉาว "ผอ.กศน." นอนกินเงินเดือนอยู่บ้าน ขณะที่เจ้าตัวยืนยัน "ไม่เป็นความจริง" ย้ำไม่ใช่สายเปย์ เพราะไม่ใช่คนมีเงิน

จากกรณีแฟนเพจ "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) อำเภอศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ หรือ กศน.เดิม นอนกินเงินเดือนสวัสดิการอยู่บ้าน ที่ทำงานแทบไม่เข้า เข้าทีก็เฉพาะตอนประชุมหรือมีงานสำคัญ เดือนละครั้งสองครั้ง เวลามีเซ็นเอกสารก็ใช้ลูกน้องหอบแฟ้มไปให้เซ็นถึงบ้านพักในตัวเมือง ห่างไปเกือบ 60 กม. งานกิจกรรมนิเทศนักศึกษาใหม่ก็ให้ครูไปทำกันเอง รักษามาตรฐานนี้มาตั้งแต่ช่วงโควิดปี 2019 จนถึงปัจจุบัน" ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันที่ 19 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำนักงาน สกร.สุรินทร์ หรือ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อติดตามความคืบหน้าจาก ดร.ปัญญา ศาสตรา ผู้อำนวยการ สกร.ประจำจังหวัดสุรินทร์ พร้อมเผยว่า ทราบข่าวจากสื่อว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิด ซึ่งเมื่อวานนี้ ผอ.สกร.ทุกพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามารับข้อสอบ และได้พบกับ ผอ.นิตยา ภูพันนา หรือ ผอ.นก ซึ่งตกเป็นข่าว จึงได้เรียกเข้ามาคุยที่ห้อง โดยตนขอทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นมาอย่างไร เนื่องจากกระแสโซเชียลที่ออกมาถึงกรณีการให้ลูกน้องนำหนังสือไปเซ็นถึงที่บ้านพักห่างถึง 60 กิโลเมตรนั้น รวมทั้งเป็นสายปาร์ตี้ สายเปย์ให้ผู้ใหญ่ ไม่เป็นไปตามที่ข่าวนำเสนอไป

...

เนื่องจาก ผอ.นก พักอาศัยที่บ้านพักในเขต อ.สังขะ ซึ่งห่างจาก อ.ศรีณรงค์ ไม่มากนัก และ ผอ.นก เองก็ไปทำงานและออกพื้นที่ตลอด กลับเข้าสำนักงานบ้างถ้าไม่เย็นมากเกินไป โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ผอ.นก ทำงานดี เพราะอยู่ที่ อ.ศรีณรงค์ มาหลายปีแล้วออกมวลชนตลอด

ทั้งนี้ ตนเองในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและลงพื้นที่เพื่อสอบถามมวลชน ชาวบ้านอีกทางหนึ่งด้วย

ทางด้าน ผอ.นิตยา ภูพันนา หรือ ผอ.นก เผยว่า หลังตกเป็นกระแสข่าวโซเชียล ตนนั้นนอนไม่หลับเลย และขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ตามที่เป็นกระแสทางโซเชียล ซึ่งตนนั้นเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก 2 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ ตนรู้สึกงงและเสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะไม่เป็นความจริงเลย ทั้งเรื่องให้ลูกน้องหอบเอกสารไปให้เซ็นถึงตัวเมืองสุรินทร์ หรือจะเป็นสายเปย์ให้กับหน้างาน เพราะตนไม่ใช่คนมีเงิน ตนก็ได้กู้หนี้ยืมสินเหมือนครูคนอื่นทั่วไป เหตุการณ์นี้ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสียหายมาก แต่ถ้าตนทำอะไรที่ผิดพลาดหรือทำให้คนใดไม่สบายใจ ก็ขออภัยด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนได้รับสายจากบุคคลที่แอบอ้างเป็นผู้ใหญ่ในจังหวัด ว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน ให้เตรียมเงินเอาไว้ 6-8 ซอง ซองละ 20,000 บาทเพื่อเคลียร์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีบุคคลสวมรอยหาประโยชน์จากเหตุการณ์ในครั้งนี้.