"เดอะโฮปสงขลา" จบภารกิจช่วยลูกสุนัขจรจัดถูก "เชือกรัดคอ" จนเป็นแผลเหวอะหวะ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว พร้อมตั้งชื่อให้ว่า "คอลล่า"
จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก The Hope Songkla ของทีมเดอะโฮปสงขลา ที่เข้าไปช่วยเหลือลูกสุนัขเพศเมีย อายุประมาณ 4-5 เดือน ถูกเชือกรัดคอจนแน่น โดยมีแม่สุนัขพยายามกัดเชือกเพื่อช่วยลูกแต่กัดไม่ออก
ต่อมา ทางทีมต้องใช้เวลา 3 วัน ในการพยายามหาตัวลูกสุนัขดังกล่าว โดยพบในป่าบริเวณสี่แยกควนลัง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และต้องใช้วิธียิงลูกดอกยาสลบจึงจับตัวได้ ซึ่งพบว่าลูกสุนัขตัวดังกล่าวถูกเชือกพลาสติกรัดคอแน่น และบาดคอเป็นแผลเหวอะหวะจนเกือบถึงกระดูก หากช่วยไม่ทันอาจจะไม่รอด
ล่าสุด วันที่ 11 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทางเดอะโฮปสงขลาส่งไปรักษาที่สุขศัลย์สัตวแพทย์ ใน อ.หาดใหญ่ ผ่านมาสองวันอาการเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ และพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยหมอไผ่ สัตวแพทย์ที่ทำการรักษา เผยถึงอาการล่าสุดว่า แผลที่คอเป็นเนื้อสด ดีขึ้นจากเดิมที่มาด้วยสภาพที่เนื้อตายและมีหนอน
...
การรักษาระยะนี้จะจัดการหน้าแผลให้เป็นแผลสดตลอดเวลา และแผลเริ่มห่อเล็กลงเรื่อย ๆ และรอให้เนื้อเยื่องอกใหม่ขึ้นมา อาการโดยรวมพ้นเขตที่คิดว่าควบคุมไม่ได้ มาอยู่ในเขตที่ควบคุมได้แล้ว ใช้เวลารักษาอีกประมาณ 1 เดือน และช่วงนี้ต้องสร้างความคุ้นชินกับน้องหมา เพราะยังระแวงแต่ไม่ใช่หมาที่ดุร้ายและเป็นหมาขี้กลัว
ด้าน นางสมคิด บุหงาชาติ ประธานเดอะโฮปสงขลา กล่าวว่า ได้ชื่อให้กับน้องหมาตัวนี้ว่า "คอลล่า" ซึ่งเป็นชื่อของปลอกคอหมาแมว เหตุที่ตั้งชื่อว่า "คอลล่า" ก็เพราะต้องการให้รู้ที่มาของมันว่าเป็นเพราะถูกเชือกรัดคอจนมาเจอกัน และนำมาสู่การช่วยเหลือจนรอด
และล่าสุดในวันนี้ ทางทีมงานเดอะโฮปสงขลาได้ลงพื้นที่บริเวณป่าสี่แยกควนลังอีกครั้ง เพื่อที่จะจับแม่สุนัขที่ยังเหลืออยู่อีก 1 ตัว เพื่อนำมาฉีดวัคซีนและทำหมัน โดยนำกรงดักไปวางไว้ในป่าเพื่อล่อแม่หมาตัวนี้ออกมา ซึ่งจะเป็นตัวสุดท้ายในการช่วยเหลือสุนัขจรจัดฝูงนี้
นอกจากนี้ ทางทีมเดอะโฮปสงขลาได้นำเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งไก่สด น้ำแดง ของหวานและผลไม้ ไปวางไว้ใต้ต้นมะเดื่อป่า เพื่อเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางและแก้บน หลังจากที่ได้บนบานศาลกล่าวเอาไว้ว่า หากหาสุนัขตัวนี้เจอและช่วยได้จนรอด จะนำเครื่องเซ่นไหว้มาแก้บนเจ้าที่เจ้าทาง ที่ช่วยเปิดทางให้หาสุนัขจนเจอ หลังพยายามหามา 3 วัน และจบภารกิจนี้ สามารถช่วยเหลือสุนัขจรจัดฝูงนี้เอาไว้ได้ทั้งฝูง.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก The Hope Songkla