ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมพิจารณาความผิด "คุณครู" โผล่คอมเมนต์โทษเหยื่อ เคสเด็ก ป.6 ถูกรุมโทรมที่ตากใบ ยันจะดำเนินการตามวินัยเพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำ

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 จากกรณีที่เคสสะเทือนใจที่ "กัน จอมพลัง" ได้พา ด.ญ. อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ หลังถูก "13 ทรชน" หลอกลวงพาไปกินโรตี แล้วใช้กำลังบังคับขืนใจในรีสอร์ตที่ตากใบ โดยได้ติดต่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นนทบุรี เพื่อเข้ามาดูแลเยียวยาสภาพจิตใจเหยื่อ ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นประเด็นที่คนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์กันมากยิ่งขึ้น เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้คอมเมนต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า "น้องยอมไปกับเขาหรือเปล่าครับ 5555" โดยมีสืบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวนั้น เป็นคุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส จ.นราธิวาส

ล่าสุด ดร.สุธิภรณ์ ขนอม ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 2 กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพิ่งทราบข่าวเมื่อคืนว่ามีคุณครูในสังกัด ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าว โดยใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสมจนกระทบต่อจิตใจ และความรู้สึกของครอบครัวผู้ถูกกระทำ รวมทั้งสังคม

...

ทั้งนี้ทันทีที่ทราบข่าว สพป.นราธิวาส เขต 2 ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วพบว่าเป็นคุณครูในสังกัด สพป.นราธิวาส เขต 2 ในฐานะผู้บังคับบัญชา และในนามเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต2 ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษต่อครอบครัวผู้ถูกกระทำและสังคม ซึ่งหลังจากตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ตั้งแต่คืนวันที่ 5 ส.ค. 67 เช้าวันที่ 6 ส.ค. 67 ได้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับนิติกรของ สพป.นราธิวาส เขต 2 เพื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และได้มอบหมายให้ทางกลุ่มกฎหมายตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการพิจารณาความผิดตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ได้พูดคุยกับคุณครูคนดังกล่าว หลังจากที่ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็น ครูเองก็ได้กลับมาทบทวนกับสิ่งที่ครูได้กระทำ และรู้สึกว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น เป็นความผิดพลาดอย่างมากที่ครูได้ไปแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ ด้วยข้อความที่ปรากฏในสื่อ และคุณครูรู้สึกเสียใจและอยากขอโทษครอบครัวของผู้ถูกกระทำ จึงได้พยายามหาช่องทางในการติดต่อกับบุคคลดังกล่าว

ซึ่งช่องทางเดียวที่คุณครูสามารถติดต่อได้ในช่วงนั้น คือช่องทางผ่านเฟซบุ๊ก และได้ประสานเพื่อหาคนกลางในการขอเบอร์โทรศัพท์ เพื่อที่จะติดต่อ แต่ในขณะนี้คุณครูยังไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวดังกล่าวได้

ในส่วนของครูเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนอนไม่หลับมาหลายคืน รู้สึกว่าสิ่งที่ตนได้ทำลงไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ ตัวเองก็ได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้และอยากจะออกมาขอโทษกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 2 ได้ย้ำว่า ที่ผ่านมาได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ และบุคลากรทางการศึกษาในการใช้สื่อโซเชียล โดยได้มีการสื่อสารกับผู้บริหารสถานศึกษา คุณครูและบุคลากรทางการศึกษามาตลอด ในเรื่องของการใช้สื่อโซเชียลในการแสดงความคิดเห็น หรือการสื่อสารกับโลกภายนอกว่า เป็นสื่อที่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการที่จะสื่อสาร ทั้งเรื่องของการแสดงความคิดเห็น เรื่องของการโพสต์ในเรื่องต่างๆ

ซึ่งก็ได้คุยกันตลอดว่าการโพสต์ถึงแม้จะเป็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่ก็เป็นพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นจะต้องใช้เรื่องของการคิด วิเคราะห์ และต้องตรวจสอบในส่วนของข้อมูลที่จะเผยแพร่ออกไป ส่วนในเรื่องนี้ยืนยันจะดำเนินการตามกระบวนการทางวินัยอย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาของครูและบุคลากรทางศึกษาไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำอีก.