เจ้าของร้านหม่าล่า ที่กำลังเป็นดราม่า โชว์แชตน้องมือดี ทักมาขอโทษ อ้างที่รีวิวร้านแง่ลบเป็นฉากๆ ได้ยินจากคนอื่นอีกที คนหนุนให้ฟ้องตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นแบบอย่าง
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ภูเขา พิชชี่ บาย พิชยา" เจ้าของร้านหม่าล่าแห่งหนึ่ง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กปกป้องร้าน หลังมีลูกค้ารายหนึ่ง ได้รีวิวลงในเฟซบุ๊กกลุ่ม น้องใหม่ มมส68 อ้างว่าไปกินบ่อย แต่เหมือนมีป้าคนหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเจ้าของร้าน พูดจาไม่ดี เอะอะไปหมด ทั้งที่ลูกค้ายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย จนรู้สึกว่าไปขอกินฟรี ซ้ำยังตะคอกลูกค้าให้ปิดประตูเบาๆ แบบไม่ให้เกียรติลูกค้าเลย จู้จี้ไปหมด และว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งต่อมา ทางร้านไปแจ้งความดำเนินคดี พร้อมประกาศเอาเรื่องถึงที่สุด เนื่องจากว่า ไปเช็กวงจรปิดมาแล้ว ไม่ได้มีใครตะคอกอย่างที่มีการรีวิว
กระทั่งต่อมา ทางเฟซบุ๊กที่ไม่ระบุตัวตนก็ลบโพสต์ออกไป พร้อมกับทักมาขอโทษทางเจ้าของร้าน พร้อมเสนอชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 10,000 บาท พร้อมกับยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ทางเจ้าของร้านอยากให้กลับไปพิจารณาตัวเลขมาใหม่ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น สร้างความเสียหายให้กับร้านอย่างมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
...
ล่าสุด ทางเจ้าของร้าน ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยนำแชตที่ได้คุยกับผู้รีวิวมาโชว์ พร้อมแคปชั่นระบุว่า "รีวิวได้เป็นฉากๆ พอถามบอก… หนูไม่ได้ยินอะไรขนาดนั้น หนูนั่งกินตามปกติ จะมากราบอะไรอีแก่บ้าน้ำลายมันจ้องจะทุบหลังอยู่ หนีไป๊ !!! เอกมโน โทจินตนาการจริงๆ"
โดยในแชตนั้น เป็นแชตที่ผู้รีวิว แชตมาขอโทษทางเจ้าของร้าน พร้อมทั้งอ้างว่า "หนูไม่ได้โดนแม่ตะคอกนะคะ คือหนูฟังจากน้องในกลุ่มมาอีกที หนูไม่ได้ยินอะไรขนาดนั้น หนูนั่งกินตามปกติ แต่ที่โพสต์เพราะน้องๆ ในกลุ่มเขาพูดเล่นๆ กัน ปูหนูก็ไม่ได้กิน น้องอีกคนพูด" และว่า "หนูไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ค่ะ หนูขอยอมรับผิด กราบเท้าพี่ๆ และแม่ด้วยใจจริง หนูขอโทษค่ะ สำนึกแล้วจริงๆ ขอโทษทุกอย่างที่ทำให้ร้านพี่เสื่อมเสียชื่อเสียง และใช้คำพูดจาหยาบคาย หนูพร้อมกราบขอขมาทุกอย่าง ด้วยใจจริง"
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ สนุกสนานในโซเชียล แต่โดดเดี่ยวหน้าบัลลังก์, ถึงขอโทษก็ยังอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จริงฟ้องร้องต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็แค่ปล่อยไปก็คงไม่สำนึกจริง ให้บทเรียนน่าจะดีกว่า, ร้านควรฟ้องมากน่ะ จะได้รู้ว่าควรที่จะโตไปยังไงให้มีคุณภาพ, ผมว่าจะเป็นผลดีกับน้องและคนรู้จักของน้องทั้งหมด จะเป็นมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตในสังคมออนไลน์ ว่าอย่าเที่ยวไปโพสต์ใส่ร้ายใครแบบนี้อีก มันตามตัวได้หมดถ้าอยากตาม ถ้ายอมรับการขอขมาและกระเช้า อย่างมากก็แค่ทำให้รู้สึกว่า จะทำอะไรก็ตาม อย่างมากก็แค่ปั้นหน้าเศร้า ยกกระเช้ามาขอขมา และขอให้เป็นอุทาหรณ์ ซึ่งเห็นมาหลายสิบเคสก็ไม่เคยจบสิ้นซะที ผมเห็นด้วยมากๆ ว่าควรฟ้องให้ถึงที่สุด เผื่อจะช่วยกระตุ้นให้คนอื่นเกิดความเข้าใจว่าการโพสต์พล่อยๆ ในโลกออนไลน์จะเกิดผลเสียในชีวิตจริงได้อย่างไร นี่ยังไม่รวมถึง digital footprint ที่จะตามไปหลอกหลอนน้องอีกเรื่อยๆ ฯลฯ
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก ภูเขา พิชชี่ บาย พิชยา