เปิดใจเจ้าของร้าน ดราม่าปรับค่าเช่า "ชุดเจ้าสาว" 6 พัน ยันไม่ต้องการฟ้องร้อง หรือเรียกค่าเสียหาย เพียงแค่ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องตัวเอง

วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จากกรณีดราม่าเจ้าสาวโอดถูกปรับค่าเช่าชุดแต่งงาน 6 พัน หลังทำรอยเปื้อน ทำให้ต่อมาร้านเช่าชุด ได้งัดหลักฐานภาพถ่ายออกมาตอบโต้ พร้อมยืนยันว่า ค่าปรับที่เรียกคือค่าจ้างซ่อมแซมชุด ย้ำหากมีอะไรไม่เข้าใจ ควรมาพูดคุยดีกว่าโพสต์โจมตีร้าน ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น (ร้านโต้ดราม่า ปรับค่าเช่าชุดเจ้าสาว 6 พัน ยันเป็นค่าเสียหายที่จ่ายซ่อมชุด)

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปร้าน Phat-loong weding ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พบกับนายภูเบศร์ หนูดำ อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ชุดดังกล่าวลูกค้าได้เช่าที่สาขาจังหวัดพัทลุง และไปใช้ในงานที่หาดใหญ่ จ.สงขลา (ร้านมี 3 สาขา) ลูกค้าทำชุดเลอะทั้ง 2 ชุด และทางร้านก็ให้พนักงานซัก หากซักออกจะไม่คิดเงิน พนักงานก็ซักจนกาวเปื่อย ซักจนชุดขาด แต่ก็ซักไม่ออก

...

ทางร้านจึงจำเป็นต้องนำชุดมาซ่อม ด้วยการส่งชุดกลับไปที่ร้านรับตัดเย็บ และทางร้านรับตัดเย็บคิดค่าซ่อมชุด 2 ชุด ที่ 6,000 บาท เป็นค่าซ่อมชุดไทย 4,000 บาท ค่าซ่อมชุดราตรี 2,000 บาท ซึ่งวิธีการซ่อมคือตัดผ้าครึ่งผืนแล้วปักทับใหม่ลงไป เท่ากับการผ่าชุดแล้วทำใหม่

ในส่วนรอยขาดนั้น ทางร้านไม่ปรับเงิน เพราะเกิดจากการที่ร้านพยายามซักจนขาด ร้านก็แจ้งว่า ทางร้านพยายามอย่างสุดความสามารถ ด้วยการซักแล้วขยี้มือจนชุดขาด แต่คราบเลอะดินก็ยังไม่ออก ร้านพยายามไม่ปรับเงินลูกค้าแล้ว และการซ่อมชุดจำเป็นต้องส่งซ่อมเท่านั้น ค่าซ่อมนี้เป็นการเรียกมาจากร้านตัดเย็บ ร้านเช่าชุดไม่ได้คิดกำไรใดๆ และในความเป็นจริง ค่าซ่อมชุดแพงกว่า 6,000 บาท แต่ทางร้านเช่าชุดได้ต่อรองกับทางร้านตัดเย็บแล้ว และชุดนี้ยังมีคนจองใช้ตอนสิงหาคมนี้

นายภูเบศร์ กล่าวต่อว่า ความจริงทางร้านไม่ได้ต้องการจะโพสต์ใดๆ ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอะไร เนื่องจากยังไงก็แล้วแต่ เจ้าสาวก็คือลูกค้าก่อน แต่ที่ต้องออกมาโพสต์ชี้แจง เนื่องจากหลังจากมีการโพสต์ได้เกิดดราม่า และได้ส่งผลกระทบต่อร้านเป็นจำนวนมาก

ซึ่งตนเองอยากออกมาชี้แจง ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด และทางเจ้าบ่าวได้มาขอโทษแทนเจ้าสาว ออกตัวรับผิดแทน และไม่ได้ว่าร้าน หรือขอให้ร้านลบโพสต์ใดๆ แสดงถึงความจริงใจในการขอโทษแทนเจ้าสาวทั้งหมด ทางร้านก็ขอโทษเจ้าบ่าวด้วย ที่ร้านต้องโพสต์ก็เพื่อปกป้องตัวเอง พร้อมกับที่มีคนแคปโพสต์ของเจ้าบ่าวที่บอกว่า "ก่อนจะทำอะไร ก็บอกแล้วให้คิดให้ดี ว่ามันส่งผลเสียหรือผลดีมากกว่า อย่าเอาแต่ความรู้สึกส่วนตัว"