โซเชียลฮือฮา "ก้อนหินวิเศษ" ชาวบ้านเชื่อเป็น "ยาผีบอก" รักษาสารพัดโรค ด้านสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เร่งตรวจสอบรักษาโรคได้จริงไหม
จากกรณี โลกออนไลน์ฮือฮาเรื่องราวสุดแปลกของ "ก้อนหินวิเศษ" ที่ชาวบ้านเชื่อว่ามี "ยาผีบอก" หรือ "ยาพระร่วง" อยู่ข้างใน นำมาละลายน้ำ เพื่อดื่มรักษาได้สารพัดโรค โดยสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัยเร่งตรวจสอบรักษาโรคได้จริงหรือไม่นั้น
ล่าสุด วันที่ 12 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตามหา "ก้อนหินวิเศษ" ที่ชาวบ้านเชื่อว่ามี "ยาผีบอก" หรือ ยาพระร่วง โดย นายเหล็ง จันทร์ฉาย อายุ 78 ปี หรือ คุณตาเหล็ง เจ้าของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวนาไทยและบ้านข้าวตอกพระร่วง เลขที่ 382/1 หมู่ 2 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย
จากการสอบถาม คุณตาเหล็ง เล่าว่า "ก้อนหินวิเศษที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า มียาผีบอกหรือยาพระร่วง บรรจุอยู่ในก้อนหิน เคยโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2536 หรือเมื่อ 31 ปีที่แล้ว ชาวบ้านหลายร้อยคนพากันไปขุดหาบริเวณเขตวัดโบราณแห่งหนึ่ง ที่อำเภอศรีสัชนาลัย จนเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าและสั่งห้ามขุด แต่ก็ยังมีคนแอบเข้าไปขุดขึ้นมาขาย เพราะขายได้ราคาดี
...
ส่วนก้อนที่คุณตาถืออยู่ ตอนนั้นซื้อมา 6,000 บาท ปัจจุบันก็คงเป็นหมื่น ชาวบ้านเรียกหินนี้ว่า ยาพระร่วง บางคนก็เรียก ยาผีบอก ภายนอกดูเหมือนหินธรรมดา แต่ข้างในจะมีเนื้อผงเป็นสีขาวบ้าง ขาวอมชมพู หรือสีชมพู ชาวบ้านจะนำส่วนนี้ไปละลายน้ำดื่ม รักษาโรคต่างๆ ตามความเชื่อของแต่ละคน บางคนก็นำไปผสมน้ำมนต์ดื่มแก้มนตร์ดำคุณไสย หรือนำไปตำเป็นมวลสารสร้างพระเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเคยมีพระมาจากจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อที่จะมาขอยาพระร่วง แต่ตนไม่อยากจะผ่าเอายาให้ไปเนื่องจากเสียดาย ซึ่งทางพระกล่าวกับลุงว่า โยมครั้งหนึ่งเราช่วยชีวิตคนได้บุญเยอะ จึงยอมผ่าหินและเอายาข้างในให้พระไป ซึ่งต่อมาลุงทราบว่าคนที่พระนำยาไปให้ทาน ปรากฏว่าอาการที่เจ็บป่วยก็ดีขึ้น".