"ทนายกิ่ง" รับทวนกระแส เพราะมีจรรยาบรรณ วิชาชีพ ต้องทำความจริงให้กระจ่าง กรณี "ปู มัณฑนา" ฟ้องหมิ่นฯ "ลิลลี่ เหงียน" ออกรายการ บอกจะพูดอะไรต้องมีสติ

วันที่ 12 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีของ "ปู มัณฑนา" ที่กำลังมีประเด็นเรื่องเงินกันอยู่ในขณะนี้ กับ ลูกหมี นางแบบชื่อดัง และ ลิลลี่ เหงียน คู่กรณี ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง ลูกหมี และลิลลี่ ได้ไปออกรายการดัง โดยฝ่ายของปู ส่ง ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ซึ่งเป็นทนายความที่มาดูแลคดีให้ปู มาเป็นตัวแทนอธิบายเรื่องราวต่างๆ กระทั่งช่วงนึงของรายการ ทางลิลลี่ได้ชี้หน้าทนายกิ่ง พร้อมกับพูดเสียงดังว่า "โกหก ตอแxล" และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ว่าการทำหน้าที่ของทนายกิ่งนั้นเหมือนเป็นการเข้าข้างลูกความของตัวเองซึ่งเป็นลูกหนี้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายกิ่ง พร้อมกับ ดร.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช คุณพ่อ ได้มีการออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ประมาณว่า.."ถึงเรื่องที่ว่า "ทนายประมาณและทนายกิ่ง ช่วยคนผิดให้เป็นถูก ทำดำให้เป็นขาว จริงหรือไม่? ประกอบวิชาชีพอย่างไร้จรรยาบรรณจริงหรือไม่? วันนี้ต้องเคลียร์"

โดยในคลิปนั้นทาง อ.ประมาณ และทนายกิ่ง ยืนยันว่ามีการแนะนำให้ทางลูกหนี้ชำระหนี้อยู่แล้ว แต่ในกรณีนี้ คนทวงนี้ ไปทวงเขาจนทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงเขาทั้งครอบครัว ซึ่งการชำระหนี้ เราต้องดูหนี้จริงด้วย เพราะเราเป็นผู้มีวิชาชีพ จะรู้ว่าหนี้แบบไหนถูกกฎหมาย แบบไหนผิดกฎหมาย เราก็ต้องแนะนำลูกความให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่า ลูกความผิดแล้วเราจะต้องผิดตามเขาไป หรือถ้าถูก เราก็ต้องทำให้เขาได้รับความเป็นธรรม และถ้าหนี้ของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน เราต้องช่วยกันหาความจริง 

ซึ่งคนที่เป็นลูกหนี้แล้วไม่จ่ายเงิน ผิดอยู่แล้ว แต่การที่ก๊วนทวงหนี้ไปตระเวนออกรายการ ทำให้อีกฝ่ายเสื่อมเสียชื่อเสียง แทนที่เขาจะใช้หนี้แล้วจบ ก็ไม่จบแล้ว เพราะมันเกิดการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย และหากพบการกระทำผิดจริง ก็อาจจะเสี่ยงติดคุกอีก

...

ระหว่างนั้นมีการตั้งคำถามว่า หาก อ.ประมาณ และทนายกิ่ง เป็นทนายความของอีกฝ่าย การพูดจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ซึ่งทั้งสองบอกตรงกันว่าเปลี่ยนไปอยู่แล้ว อันดับแรก เราอาจจะมีการยกหูไกล่เกลี่ยกันให้ก่อน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ลูกหนี้ดูเหมือนจะไม่ใช้หนี้ เราก็จะใช้กระบวนการทางกฎหมาย ยื่นโนติสเตือน หากไม่ชำระหนี้ก็จะดำเนินการทางกฎหมาย เรียกร้องตามสิทธิ์ที่ลูกความมี พร้อมยืนยันว่า จะไม่ให้ลูกความไปออกรายการเพื่อทวงหนี้เด็ดขาด ไปประจานเขาไม่ได้ ซึ่งลูกความเราเป็นหนี้เขาก็ต้องใช้เขา แต่เมื่อเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมในส่วนอื่นๆ เราก็ต้องช่วยเขาเหมือนกัน

ตอนนี้คนยังเข้าใจผิดว่า ลูกหนี้เราดื้อหนี้ ไม่ยอมจ่ายเงิน ต้องบอกว่า ตอนนี้อยู่ในกระบวนการไกล่เกลี่ยแบบบูรณาการ จบแบบไม่ต้องขึ้นศาล ทั้งคู่ก็ต้องมาคุยกันว่า เป็นไปในทางไหนได้บ้าง แต่ถ้าไกล่เกลี่ยกันได้ เรื่องหนี้ก็จบก่อน จากนั้นเราก็ไปว่ากัน กรณีของหมิ่นประมาท เราว่ากันทีละเรื่อง 

ซึ่งหลังจากนี้ผมก็จะทำตามที่ทัวร์มาลงแนะนำว่า ทำไมไม่ไปชำระหนี้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาฟ้องทีหลัง และเดี๋ยวทัวร์ก็จะมาลงอีกว่าไปฟ้องอะไรเขาเยอะแยะขนาดนั้น โดยทนายกิ่งเสริมว่า ก็เขาออกมาหมิ่นฯ เยอะจริง ออกรายการไม่รู้กี่รายการ ไม่รู้กี่กรรมแล้วตอนนี้

อ.ประมาณ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้สิ่งที่ผมทำพยายามทำให้เห็นว่า ดำเป็นดำ ขาวเป็นขาว ไม่ใช่ทำให้ดำเป็นขาว สิ่งที่สังคมเห็นไปในทางเดียวกัน ไม่ได้เป็นความจริง มันมีความจริงซ่อนอยู่ในนั้น ใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน จ่ายจบคดีหนี้ แต่ไม่จบคดีหมิ่นฯ

นอกจากนี้ทั้งสองคนยังยอมรับด้วยว่า ตอนนี้กำลังทวนกระแสสังคมอยู่ เพราะเรามีวิชาชีพ มีจรรยาบรรณ ถ้าเราเห็นว่าไปตามกระแสแล้วมันผิด เราไม่จำเป็นต้องตามกันไปผิดๆ เพราะเรามีความรู้ เราเป็นเนติบัณฑิต เป็นนักนิติศาสตร์ เราต้องผดุงความยุติธรรมให้สังคม เหมือนกับเวลาไปขึ้นศาล ศาลก็ไม่ได้ตัดสินเราตามกระแส เพราะเขาตัดสินตามพยาน หลักฐาน 

นอกจากนี้ ทนายกิ่ง ยังได้เตือนว่า ตอนนี้ใครที่ด่าทนาย อาจจะต้องระวัง เพราะมีการให้ทีมเข้ามาดูคอมเมนต์ที่ด่าแรงเกินกว่าเหตุ อาจจะต้องมีการดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง ประมาณ 30-40 คน ตอนนี้ลบยังทัน ซึ่งด่าไปถึงว่า เราไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราจะให้ทีมงานเริ่มเก็บแล้ว เอาที่เด็ดๆ คนไหนเด็ด โดนก่อนเลย

ทั้งนี้ ทนายกิ่ง บอกด้วยว่า ได้แจ้งความดำเนินคดี กับ ลิลลี่ เหงียน ฐานหมิ่นประมาทไว้ที่ สน.วังทองหลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่อีกฝ่ายด่าว่า โกหก ตอแxล ออกรายการ และยังโพสต์โซเชียลด่าทอตัวเองไม่หยุด ทำเหมือนเราต่ำมาก แล้วเขาอยู่สูง ซึ่งตอนนั้นอยู่ในรายการ มันไม่ใช่การโต้เถียง เพราะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร เพราะคุณพ่อสอนมาดี ได้รับการอบรมมาดี ตนจะไม่ทำแบบนี้กับคนอื่น เราจะไม่ไปด่าเขาว่าหน้าด้าน ตอแxล โกหก แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ คุณจะพูดอะไรต้องมีสติ.

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก ประมาณ ว่า.."