สาวแชร์ประสบการณ์ น้องแมววัยขวบเศษ เสียชีวิตหลังทำหมัน ชันสูตรพบเป็นโรคหัวใจแฝง ด้านสัตวแพทย์ เผย โรคนี้ไม่แสดงอาการ ต้องตรวจถึงเจอ นอกจากทำหมัน การบังคับน้องจนเครียดก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุ ทำให้ตายได้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Hanz Phimukakkharakul ได้โพสต์ข้อความ ขอปรึกษา หลังน้องแมวเสียชีวิตหลังจากการทำหมันไม่นาน ลงในกลุ่ม "ปรึกษาเรื่องแมว by ปอน" ระบุว่า ปรึกษาหน่อยค่ะ เราเอาแมวไปทำหมันมาแล้วตาย ตายประมาณ 6-7 วันหลังทำหมัน ตัวผู้อายุ 1 ปี 4 เดือน ใครเคยเจอเคสแบบนี้ และคลินิกหมอรับผิดชอบไหมคะ

ตอนก่อนไปทำ อดข้าวอดน้ำ วิ่งเล่นได้ ร่าเริงปกติ หมอตรวจเลือดแล้วก่อนผ่าตัดค่ะ 100% หลังจากกลับมาก็มีซึมๆ บ้าง แต่ก็เห็นบางเวลาก็ยังวิ่งเล่นกับแมวอีกตัวได้ บางเวลา แต่ส่วนใหญ่ก็คือซึมๆ ตามปกติแมวทำหมันมา

อาการน้องก่อนตายในคืนนั้น เซื่องซึม ทานอาหารน้อยมาก หลังจากทำหมัน เราก็ดูอาการไปเรื่อยๆ แต่หมอไม่ได้มียามาให้กิน เราก็แปลกใจหลายรอบ และก็ก่อนจะตายเขาฉี่แตกราดพื้น ช่วงบ่ายๆ และก็ไอแบบดังมากก่อนจะตายตอนตี 2 ของก่อนวันจันทร์

1. น้องเคยฉีดวัคซีนตอนเด็กๆ ไป 1 ชุด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ฉีดต่อเนื่องเพราะเขาอยู่แต่กับแม่ ไอ้เราก็เลยถามหมอว่าให้ฉีดวัคซีนก่อนไหม หรือว่าไปทำหมันก่อน หมอบอกไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็เลยให้ทำหมันก่อน แล้วอีกเจ็ดวันค่อยมาฉีดวัคซีน

2. หมอไม่ได้มีใบนัดทำนัด หรือว่าโทรตามเช็กอาการเลยหลังจากที่ทำแล้ว เซอร์วิสไม่มีเลย

3. ตอนนี้รอผลชันสูตร 2 สัปดาห์ ว่าเกิดจากอะไร

เราเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้งี้ไม่น่าพาไปทำหมัน พ่อเราก็ว่าเรากับแม่เรา สงสารน้องมากๆ ตอนตายค่ะ ก่อนจะตาย เขาค่อยๆ ลากตัวเองขึ้นไปลาแม่ เพราะติดแม่มากๆ ใครมีแนวทางแนะนำ ช่วยบอกทีนะคะ

ป.ล. ตักเตือนใจ เรื่องการทำหมันน้องๆ ต้องเฝ้าระวังแบบระยะประชิด 100% และเลือกคลินิกที่ดีมากๆ ใส่ใจน้องตลอดเวลา อย่าพลาดแบบเรา"

...

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเสียใจ พร้อมแชร์ความเห็น และประสบการณ์เป็นจำนวนมาก ก่อนที่เจ้าของโพสต์จะมาอัปเดตสาเหตุของการเสียชีวิต จากหน่วยพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งระบุว่า ผลสรุปการเสียชีวิตน่าจะมาจากการล้มเหลวทางการหายใจ โดยผลชันสูตร พบน้องมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจช่องซ้ายหนาตัว และเนื้อเยื่อพังผืดแทรกกล้ามเนื้อหัวใจ ปอดพบภาวะการบวมน้ำ ซึ่งมีผลทำให้เสียชีวิตได้ 

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กเพจ "เลี้ยงหมาตามหมอ" ของ หมอบรีฟ สพญ.วรางคณา สังข์พิชัย ได้โพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า "ทำหมันแล้วน้องไม่รอด ก็เพราะเป็น "โรคหัวใจแฝง" บอกเลยเดี๋ยวนี้เยอะมากๆ ไม่เฉพาะในแมวพันธุ์ ในแมวไทยอ้วนๆ นี่ล่ะก็เจอบ่อย

ดังนั้นก่อนทำหมัน อย่าประหยัดค่าตรวจเลย ตรวจเลือดอย่างเดียวอาจไม่พอ ตรวจสุขภาพ-ชุดตรวจโรคหัวใจแฝง เอาให้ครบตามคำแนะนำของคุณหมอ เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดดีกว่านะคะ

โรคหัวใจแฝงในแมว = แทบไม่มีอาการ ไม่รู้ได้เลย"

นอกจากนี้ หมอบรีฟ ยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า โรคหัวใจแฝง อาการแทบไม่มีเลยค่ะ บางทีบอกยากถ้าไม่ได้พาไปตรวจ เพราะแมวเป็นสัตว์ที่จะอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ดุ๊กดิ๊ก ดีดมากๆ แบบหมา ที่เราจะสังเกตได้ชัดว่าป่วยหรือซึมลง บางทีเขารู้สึกเหนื่อยขึ้น หายใจลำบากขึ้น ก็แค่อยู่เฉยๆ พูดบอกเราไม่ได้ ก็เลยไม่รู้

ซึ่งโรคนี้มีโอกาสเป็นได้เยอะในแมวพันธุ์ฝรั่ง สก็อตติช เปอร์เซีย เมนคูน หรือแมวไทยที่อ้วน ก็มีโอกาสเป็นได้

วิธีที่พอจะทราบว่าน้องป่วยโรคหัวใจแฝงได้นั้น คือ พาไปตรวจเช็กโรคหัวใจ เช่น การใช้ชุดตรวจโรคหัวใจแฝง การเอกซเรย์ และเอคโค่ อัลตร้าซาวนด์หัวใจร่วมด้วย ดังนั้น ถ้ามีความเสี่ยงแล้วไม่ทราบ การตรวจเลือดก่อนไปผ่าตัดทำหมันอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

โรคหัวใจแฝงในแมว เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้บ่อย นอกจากทำหมันแล้วก็เช่น การจับบังคับต่างๆ การอาบน้ำตัดขน ที่ทำให้แมวเครียด แล้วหัวใจวายตายตามมาได้เลย.

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก Hanz Phimukakkharakul, เพจ เลี้ยงหมาตามหมอ