"การรถไฟแห่งประเทศไทย" พร้อมเปิดให้บริการ ขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ "ไทย-สปป.ลาว" เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์–เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เที่ยวแรก 19 ก.ค. นี้ เชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 2 ประเทศ

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย บูรณาการความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว เพื่อขยายการให้บริการขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์–เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน และขนส่งสินค้าระหว่างกัน

ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความพร้อมแล้วในการเปิดเดินขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวนแรก ในวันที่ 19 ก.ค. นี้ พร้อมกับเปิดให้ผู้โดยสาร จองตั๋วโดยสารได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งเปิดให้บริการไป-กลับ จำนวน 2 ขบวน ประกอบด้วย รถธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม) 152 ที่ รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 64 ที่นั่ง และรถนั่งและนอนปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 30 ที่นั่ง พ่วงไปกับขบวนรถเร็วที่ 133 นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการเส้นทางอุดรธานี-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)–อุดรธานี ไป-กลับ อีก 2 ขบวน รวมเป็น 4 ขบวน/วัน 

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์เดินทาง สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า (สูงสุด 180 วัน) ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องมีหนังสือเดินทาง (Passport) หรือหนังสือผ่านแดน (Border Pass) เพื่อใช้ในการทำพิธีการทางศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองที่สถานีหนองคาย และเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ก่อนการเดินทางข้ามประเทศ ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังได้รับความร่วมมือจาก สมาคมผู้ประกอบการขนส่งที่เวียงจันทน์ ในการจัดรถโดยสารรับ-ส่ง อำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย

...

สำหรับการเปิดเดินขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ ไทย-สปป.ลาว ครั้งนี้ นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศแล้ว ยังช่วยยกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ไทย ให้กลายเป็นศูนย์กลางภูมิภาคตามนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาล ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้การรถไฟฯ เป็นกำลังหลักในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศ โดยให้เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในทุกๆ ด้าน ก่อนที่จะมีเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบ 

นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนการค้าชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว ให้มีการขยายตัวมากขึ้น พร้อมกับขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว Tourism Hub ที่สำคัญของโลก ตามยุทธศาสตร์ เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวของรัฐบาล โดยขบวนรถ สามารถรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้ โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่นอีก ซึ่งจะก่อให้ประโยชน์ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวในอนาคตอีกด้วย.

ขอบคุณเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย