แนะไทยสร้างสมดุลป้องกันเด็กและเยาวชนห่างไกลบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า หลัง WHO ออกรายงานประจำปี 2024 เผย อัตราการใช้ยาสูบกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก   

 

วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ World Health Organization (WHO) ได้ออกรายงานประจำปี 2024 โดยระบุว่า ขณะนี้อัตราการใช้ยาสูบกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีผู้ใหญ่ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบราว 1,250 ล้านรายทั่วโลก ซึ่งลดลงกว่า 19 ล้านรายเมื่อเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อน 

ทั้งนี้พบว่า จำนวนเด็กและเยาวชนที่อายุระหว่าง 13-15 ปีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบนั้นอยู่ที่ราว 37 ล้านราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลไม่น้อย ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นส่วนผสมของมาตรการการควบคุมยาสูบ การรณรงค์งดสูบบุหรี่ โดยเฉพาะการเข้ามามีบทบาทของบุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบทางเลือกในไม่กี่ปีให้หลังนี้

อย่างไรก็ตาม การใช้กฎหมายและมาตรการเพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นหนึ่งในกลไกที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการลดผลกระทบเชิงลบในแง่ต่างๆที่อาจเกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า องค์การอาหารและยาสหรัฐ หรือ US FDA ระบุว่า แม้บุหรี่ไฟฟ้านั้นได้รับความนิยมสูง แต่ผลสำรวจชี้ว่า อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กมัธยมนั้นลดลง 14.1% ในปี 2022 เหลือ 10.0% ในปี 2023 

เช่นเดียวกันกับ "ประเทศญี่ปุ่น" ที่อนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนถูกกฎหมาย ผลสำรวจระบุว่า อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นลดลงจาก  23.4% สู่ร้อยละ 16.7% ในระยะเวลา 10 ปี โดยที่มีอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเด็กมัธยมต้นและมัธยมปลายที่ 0.1% เท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้กฎหมายที่ชัดเจนและครอบคลุมในการจัดการปัญหาและผลกระทบจากยาสูบ

...

สำหรับบริบทของ "ประเทศไทย" บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และยังมีการให้ข้อมูลที่ไม่สมดุลนัก ทั้งนี้ การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าด้วยกฎหมายนั้นต้องพิจารณาผลประโยชน์มวลรวมต่อสาธารณสุขของประเทศ (Net Public Health) อ้างอิงจาก UK Office for Health Improvement and Disparities (OHID) หรือ หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประเทศไทยจะพิจารณาปัจจัยดังกล่าว และลดการสื่อสารที่อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือความหวาดกลัวต่อบุหรี่ไฟฟ้าและนวัตกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รวมถึงการขยายความผลวิจัยหรือผลการศึกษาที่อาจไม่ถูกต้อง ดังกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับ การศึกษาความชุกของการเกิดโรคมะเร็งในผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า: การศึกษาย้อนหลังแบบตัดขวางในช่วงเวลาหนึ่ง (Retrospective Cross-sectional Study) ที่ได้รับการตีพิมพ์ไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 

แต่ภายหลังมีการสอบทวนทางวิชาการ (Peer Review) และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับระเบียบการทำวิจัย การประมวลผลข้อมูล และความน่าเชื่อถือของข้อสรุป ซึ่งผู้จัดทำไม่สามารถให้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมหรือตอบคำถามได้ จึงทำให้บรรณาธิการของวารสารดังกล่าวต้องถอดงานวิจัยนี้ออก ทว่างานวิจัยนั้นได้ทำการขยายความออกไปในวงกว้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องได้

สำหรับประเทศไทยความคืบหน้าของการพิจารณาการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าด้วยกฎหมายในประเทศไทยนั้น คณะอนุฯ ได้นำเสนอแนวทางการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อ กมธ.ชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย โดยมี 3 ทางเลือกเชิงนโยบาย คือ 

1. การแบนเบ็ดเสร็จทั้งหมด 

2. การแบนบุหรี่ไฟฟ้าแต่ให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนถูกกฎหมาย 

3. การให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดควบคุมด้วยกฎหมาย 

ทั้งนี้ ขึ้นกับว่าประเทศไทยจะเลือกเดินทางตามประเทศส่วนใหญ่ของโลก กว่า 84 ประเทศที่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจัดการปัญหาเด็กและเยาวชน หรือยังคงแบนต่อไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากผลิตภัณฑ์ที่มีนิโคตินทุกรูปแบบ และขณะเดียวเพื่อให้มั่นใจว่าอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ใหญ่ยังคงลดลงต่อเนื่อง จึงต้องสร้างความสมดุลระหว่างการช่วยชีวิตผู้สูบบุหรี่ให้ได้รับอันตรายที่น้อยลง กับการปกป้องเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากยาสูบทุกชนิด เพราะแม้ว่าแนวโน้มการบริโภคยาสูบจะลดลง แต่ก็ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดอัตราการบริโภคยาสูบร้อยละ 30 ภายในปี 2025 อย่างที่ได้วางแผนไว้ได้

ที่มา: Tobacco use declines despite tobacco industry efforts to jeopardize progress (who.int), Tobacco use declining globally, despite industry efforts, WHO says | Euronews