แม่แชร์ประสบการณ์ช้ำใจ ลูกสาววัย 4 ขวบครึ่งได้รับบาดเจ็บที่โรงเรียน หน้าบวมช้ำ หน้าผากโน เจ็บตัวตั้งแต่เที่ยงแต่ไม่แจ้งผู้ปกครอง ซ้ำเจอคำพูดครูทำโมโหจนตัวสั่น

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 มีรายงานว่า โลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณแม่รายหนึ่ง ที่ได้โพสต์ภาพลูกสาว อายุ 4 ขวบครึ่ง มีรอยช้ำ และบาดแผลที่ใบหน้า พร้อมข้อความเล่าว่า "กลับมาหาลูก 6 โมงเย็น เจอลูกสภาพนี้ หน้าบวมฉึ่ง หัวปูดตาปิด ใต้ตาบวม ยายบอกตอนมาจากโรงเรียนคือตาบวมแทบปิด หน้าผากโนเป็นลูกมะกรูด (ตอนนี้ยุบลงแต่ก็ยังโนตามรูป)

(นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่น้องเจ็บตัวจากการไปโรงเรียน) โทรไปสอบถามครู ครูบอกไม่เห็นตอนน้องเจ็บ ครูอยู่ในห้อง น้องเล่นข้างนอก มีเพื่อนน้องวิ่งมาบอกว่าน้องเจ็บ น้องร้องไห้ไม่หยุด ไม่บอกว่าเล่นยังไงถึงเจ็บ 

จริงๆ คือตอนแรกก็โมโหแล้วนะ เพราะว่าตั้งแต่เปิดเทอมมา น้องเจ็บตัวมากๆ มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกน้องบอกเพื่อนผลักเข่าแตกมา เป็นแผลใหญ่ แผลเปิดประมาณ 5 ซม. เป็นหลุมมาเลย แผลเพิ่งหายไป ครั้งนั้นครูก็ไม่แจ้ง และก็ไม่เห็นเหตุการณ์เหมือนกัน

แต่ครั้งนี้ที่โมโหจนตัวสั่นเพราะ คำพูดครูมันแย่ ครูบอกน้องเจ็บตัวตั้งแต่เที่ยง ร้องไม่หยุด ก็เอาน้ำแข็งประคบให้แล้วไง คำพูดครู คือลูกเจ็บขนาดนี้ แต่ไม่แจ้งผู้ปกครอง ไม่พาหาหมอ ให้เด็กนั่งร้องนั่งทนจนเย็น ตอนยายไปรับตอนเย็น น้องยังร้องไม่หยุดเลย น้องบ่นปวดหัวไม่หยุด

เรา: ทำไมคุณครูไม่แจ้งผู้ปกครอง จะได้พาน้องไปหาหมอ

ครู: ไม่ทันคิดค่ะ #ไม่ทันคิด #พูดมาได้ยังไง

เรา: แล้วถ้าเราพาน้องรักษาไม่ทัน น้องเลือดคลั่ง กะโหลกร้าว หาหมอไม่ทันทำไง?

ครู: แล้วน้องเป็นแบบนั้นหรือยัง #พูดมาได้ยังไง

เรา: ครูพูดได้ยังไง มันชีวิตคนนะ ชีวิตลูกเราทั้งคนนะ การตัดสินใจการดูแลครูแย่มาก

...

ครู: ขอโทษแล้วกันค่ะ น้ำเสียงรำคาญแม่ ไม่มีน้ำเสียงรู้สึกผิดเลย

แล้วครูก็จบการสนทนาด้วยประโยคว่า ถ้าแม่ไม่พอใจก็เข้าไปเจอที่โรงเรียนได้เลย

คือแบบบบบบ โมโหจนตัวสั่น น้ำตาไหล มันเป็นแบบนี้นี่เอง โรงเรียนมันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยเหรอ อุบัติเหตุเกิดได้ เล่นเจ็บได้ แต่มันต้องไม่ใช่การตัดสินใจให้เด็กร้องไห้เพราะเจ็บเพราะปวดครึ่งวันหรือเปล่า แม่ๆ คนอื่นว่าไง เราเป็นแม่ที่คิดเยอะ คิดมากไปหรือเปล่า จากปากลูก ลูกบอกครูเอาน้ำเย็นมาเช็ดให้ บอกให้หยุดร้อง แล้วบังคับให้นอนหลับ เด็กหัวปูดตาปิดขนาดนี้ ไม่คิดจะสังเกตอาการเลยเหรอ บังคับเด็กหลับเนี่ยอะนะ"

จากการสอบถาม เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อ 6 วันที่แล้ว ตอนนี้แผลบวมช้ำที่หน้าผากยุบแล้ว เหลือประมาณ 5% ยังเป็นรอยสีเขียวอมฟ้า ส่วนตาที่บวม ยุบแล้ว เหลือแต่แผลใต้ตา อาการข้างเคียงไม่มี

นอกจากนี้ เจ้าของโพสต์ ได้อัปเดตอีกว่า ได้ทำเรื่องย้ายโรงเรียนแล้ว ส่วนสาเหตุการเจ็บ ไม่ทราบเลย เพราะโรงเรียนไม่มีกล้องวงจรปิด คุณครูไม่เห็น มีเพื่อนน้องที่เป็นเด็ก 3-4 ขวบด้วยกันที่เห็น ถามไม่รู้ความเหมือนกัน และหลังจากลูกเจ็บในตอนเช้า ได้มีคณะครู ผอ.เข้ามาหา ยอมรับผิดและขอโทษ บอกครูรับรู้ เห็นเด็กตอนเจ็บกัน 3 คน ผอ.พูดว่า ค่อยๆ แก้ไข ปรับปรุงกันไป ส่วนเรื่องครูประจำชั้นได้มีการร้องไปที่เขต ร้องกระทรวง ผลสรุปยังไม่ได้

"เรารู้นะคะ เด็กเล่นเจ็บได้ ทั้ง 2 ครั้งครูไม่เห็นเลย ก็ยังเข้าใจได้ หน้าที่ในการดูอาจบกพร่องก็พร้อมอภัยได้ แต่หน้าที่ในการแก้ปัญหา อภัยไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันชีวิตคน ชีวิตลูกเรา เจ็บที่เข่ายังพออภัยได้ แต่ที่หัวนี่ มันเสี่ยงอันตรายมากนะคะ ไม่แจ้งผู้ปกครอง ไม่พาหาหมอ ไม่สนใจ ไม่มีตามอาการ ปล่อยผ่านไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย อาจจะมีคนว่าแม่โวยวายเล่นใหญ่ไป ก็ช่างเขาค่ะ 

ต้องรอลูกตายเหรอ ถึงจะโวยวายได้? ลูกเราแค่โชคดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อนเพิ่ม ถ้าเราไม่โวย บรรทัดฐานในการดูแลเด็กของครูก็ไม่ดีขึ้น เกิดเหตุอีกก็เพิกเฉยเหมือนเดิมอีก เด็กคนอื่นอาจจะไม่โชคดีเหมือนลูกเราก็ได้ค่ะ"

อย่างไรก็ตาม พบว่าในเวลาต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้เข้ามาให้กำลังใจคุณแม่ และขอให้น้องที่บาดเจ็บหายโดยไว.