เปิดใจ "เภสัชกรสาว" เล่าวินาทีชีวิต ช่วยเด็กกิน "องุ่น" ติดหลอดลม มีอาการชักเกร็ง ตาค้าง บอกในสถานการณ์ฉุกเฉินการมีสติเป็นสิ่งที่สำคัญ

กลายเป็นคลิปนาชีวิตที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kratib Napakkamon ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า 11 ปี หลังจากเหตุการณ์โจรปืนปลอมมาจี้ที่ร้านยา ก็ไม่เคยมีครั้งไหนใจเต้นและบีบหัวใจเท่าเหตุการณ์ในวันนี้เรียกได้ว่า "วินาทีชีวิต"

ในช่วงเวลา 18.00 น มีลูกค้าประจำที่ร้านขับรถมอเตอร์ไซค์พาลูกมา จอดหน้าร้านได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดัง แล้วตะโกนว่าพี่ติ๊บช่วยน้องด้วยน้องชัก นี้ก็ตกใจมาก แม่น้องแจ้งว่าน้องมีไข้แล้วน้องชัก เราก็ตั้งสติ จับน้องนอนลงในคอกเด็ก แจ้งยายต้อยให้หาผ้าเช็ดตัวมาให้ด่วน ให้พ่อเด็กรีบโทร. 1669 ทันที!! 

น้องมาด้วยอาการ ตาค้างเบิกโพลง ไม่กะพริบ ตัวอ่อนแรง ฉี่และขี้แตก ไม่ได้สติ จึงเริ่มจากการเช็ดตัว แต่พอจับตัวน้องไม่ได้ตัวร้อน จึงปั๊มหัวใจ แต่ประเมินอาการแล้วน่าจะไม่ใช่ จึงสอบถามแม่น้องว่า ก่อนหน้านี้ให้น้องกินอะไรมาบ้าง เพราะในใจสงสัยเรื่องอาหารติดคอ

พอแม่บอกว่าองุ่นชิ้นเล็ก แม้จะชิ้นเล็ก แต่เด็กวัยนี้มีพฤติกรรมอมอาหาร แล้วอาจจะสำลักเข้าหลอดลมได้ง่าย ก็ไม่รอช้าลงมือจับน้องกระทุ้งทันที โอ้แม่เจ้า น้องตอบสนอง ตาเริ่มกะพริบช้า เริ่มได้ยินเสียงร้องเบาๆ จากนั่นก็ทำครั้งที่ 2 เสียงเริ่มดังขึ้น ครั้งที่ 3 น้องร้องเสียงดังขึ้นกว่าเดิมตั้งคอได้ น้ำตาไหลในใจนี้โล่งเลย "น้องรอดแล้วนะลูก" ประจวบเหมาะกับร้องโรงพยาบาลมาถึงหน้าร้านพอดี 

เปิดร้านยามา 12 ปี เจอผู้ป่วยวิกฤติมาเยอะ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนบีบหัวใจเท่าครั้งนี้ เพราะเราก็มนุษย์แม่เช่นกัน ตอนนี้น้องปลอดภัยและยังคงเฝ้าดูอาการน้องต่อที่ รพ.สตูล ไม่เจอกับตัวเองนี้ไม่รู้เลยว่าคำว่านาทีชีวิตมันเป็นอย่างไร ขอบคุณตัวเองที่มีสติพอ ขอบคุณคลิปต่างๆ ของพี่หน่วยปฐมพยาบาลที่เคยผ่านตาทำให้ได้มีความรู้ว่าต้องช่วยเด็กอย่างไร

...

ต่อมาทาง สภาเภสัชกรรม ก็ได้โพสต์ชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเภสัชกรหญิงคนดังกล่าว ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นจำนวนมาก อาทิ สุดยอดครับ, ชื่นชมมากค่ะ ตัดสินใจ วิเคราะห์สถานการณ์ได้ถูกต้องมากค่ะ เข้าใจมนุษย์แม่มากๆ, เก่งและมีสติดีมากๆ เลย ดีใจแทนครอบครัวน้องมากค่ะ, ฯลฯ

ล่าสุดวันที่ 28 มิถุนายน 2567 "คุณกระติ๊บ" เภสัชกรเจ้าของโพสต์ ได้เปิดใจกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" โดยเผยถึงอาการล่าสุดของเด็กว่า ตอนนี้อาการของน้องปลอดภัยแล้วค่ะ ทางแม่เช้านี้บอกว่าไม่มีไข้ และไม่อาการชัก หลังจากดูอาการที่โรงพยาบาล ทานนมได้ข้าวได้ แต่ยังนอน น้องร่าเริงเล่นได้แล้วค่ะ คาดว่าหมอจะให้กลับวันนี้

ก่อนหน้าเคยเจอเคสอุบัติเหตุหน้าร้าน เจอเคสสภาวะอาการเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดทางสมอง ซึ่งระยะเวลาในการจัดการเคสส่งต่อยังพอมี แต่เคสนี้คือต้องทำทันที

สิ่งที่อยากบอกหลังจากได้เจอกะเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่า "นาทีชีวิต" ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับใคร การมีสติเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ประเมินสถานการณ์และลงมือทำทันที ประกอบกับการดูตัวอย่างจากเคสกรณีศึกษา เรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งในปัจจุบันพบเจอได้ในสื่อออนไลน์ได้ทั่วไป เป็นแหล่งข้อมูลให้ตนเองหากเจอสถานการณ์ดังกล่าว

ร้านยาเป็นสถานปฏิบัติการทางเภสัชกรรมชุมชน ในระดับปฐมภูมิ มีความใกล้ชิด เป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่พึ่งพาของคนในพื้นที่ ซึ่งนอกเนื่องจากหน้าที่จ่ายยาและให้คำแนะนำในเรื่องสุขภาพ เรายังมีหน้าที่หนึ่งคือการคัดกรองผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤติ หรือมีความเสี่ยงสูงเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล แต่ให้เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเรายังต้องมีอีกทักษะหนึ่งนั่นคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การศึกษาเรื่องแพทย์ฉุกเฉิน

ในฐานะเภสัชกร ก็อยากให้เภสัชกรชุมชนเริ่มเรียนรู้ และตระหนักในเรื่องนี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจเกิดที่ร้านยาอื่นๆ อีกก็ได้ "แม้จะเป็นวินาทีที่บีบหัวใจ เป็นวินาทีชีวิต" ขอให้เราได้ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ให้สุดความสามารถ.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Kratib Napakkamon