เจ้าของรีบแจง ดราม่าเลี้ยง "ลูกสิงโต" 2 ตัว ในคาเฟ่ ยันขออนุญาตถูกต้อง ปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ มีการดูแลความปลอดภัย 24 ชม.

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่งของชาวกระบี่ ได้โพสต์ภาพสิงโตในกรง พร้อมระบุข้อความว่า "สิงโตเอามาขังกรงแบบนี้ได้ไหมคะ ถ้าขังพื้นที่ต้องมีขนาดเท่าไหร่ ต้องกว้างกว่านี้ไหม? ทำไมดูแล้วรู้สึกคับแคบจัง สอบถามผู้รู้ค่ะ พิกัด : คาเฟ่เปิดใหม่ ในกระบี่"

ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็น พร้อมตั้งคำถามเป็นจำนวนมาก ว่า สามารถครอบครอง และเลี้ยงแบบสิงโตได้หรือไม่ แล้วจะเป็นอันตรายไหม ซึ่งต่อมาก็มีสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้าไปตอบกลับว่าตนเองนั้นเป็นเจ้าของลูกสิงโตทั้ง 2 พร้อมเผยข้อมูลเอกสารการรับเลี้ยงมาอย่างถูกต้อง

ล่าสุด วันที่ 24 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ ที่ร้านบ้านช้าง คาเฟ่ ตั้งอยู่บริเวณควนนกกินน้ำ หมู่ 1 บ้านช่องพลี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พบกับ นายพัลลภ คงศิริ อายุ 32 ปี และแฟนสาว น.ส.เกวลี คงเหล่า อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านและเจ้าของลูกสิงโตทั้ง 2 ตัว ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวไปดูความเป็นอยู่ของลูกสิงโตที่เลี้ยงไว้ในกรงตามมาตรฐานที่กรมอุทยานฯ กำหนด เป็นกรงที่สร้างไว้ในพื้นที่ของคาเฟ่

...

โดยลูกสิงโตทั้ง 2 ตัว เป็นสิงโตเพศผู้และเพศเมีย ตัวโตชื่อเจ้าไค เป็นสิงโตเพศผู้อายุ 8 เดือน ส่วนตัวเล็กชื่อเจ้าคาราเมล เป็นเพศเมีย อายุได้ 4 เดือน ทั้งคู่มีอาการร่าเริงอยู่ภายในกรง วิ่งเล่นกันตามประสาสิงโตเด็ก และชอบให้ นายพัลลภ เจ้าของ อาบน้ำให้ทุกวันด้วย และไม่มีอาการตื่นกลัวนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากจะมีสิงโตแล้ว ในคาเฟ่ยังมีนกแก้ว และช้างให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดและถ่ายภาพด้วย

น.ส.เกวลี เผยว่า ตอนแรกที่เห็นโซเชียลนำเรื่องนี้ไปโพสต์ก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น เพราะปัจจุบันการเลี้ยงสิงโต สามารถเลี้ยงได้ถูกกฎหมายแล้ว บวกกับตนและแฟนหนุ่มเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ และชอบสิงโตอยู่แล้ว จึงตัดสินใจซื้อมาเลี้ยง

โดยตัวโตเจ้าไค เลี้ยงมาได้ 5 เดือนแล้ว ส่วนเจ้าคาราเมลเพิ่งเอามาเลี้ยงได้ 1 เดือน ตอนแรกตั้งใจเอามาเลี้ยงไว้ที่บ้านซึ่งมีบริเวณ แต่ตนกับแฟนหนุ่มคิดจะเปิดคาเฟ่ในลักษณะมินิซู (Mini Zoo) อยู่แล้ว จึงเอาน้องทั้ง 2 ตัวมาเลี้ยงไว้ที่นี่ ร้านเพิ่งเปิดได้แค่ 3 วันเท่านั้นก็มีดราม่าขึ้นมา ก่อนนี้ก็เคยทำธุรกิจให้นักท่องเที่ยวเลี้ยงช้าง ให้อาหารช้างมาก่อน และเพิ่งมาต่อยอดเป็นคาเฟ่

น.ส.เกวลี กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าการดูแลน้องทั้ง 2 ตัว เราปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ประจำของที่นี่อยู่แล้ว จะมีการจัดตารางการให้อาหารให้เพียงพอ และยืนยันได้เรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าลูกสิงโตจะหลุดออกไปสร้างอันตรายให้ใครได้ เพราะเรามีการดูแลตลอด 24 ชม.

อีกอย่างทั้ง 2 ตัวเป็นลูกสิงโตจากฟาร์มเพาะพันธุ์ ไม่ใช่ลูกสิงโตจากป่า จึงไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ส่วนการขออนุญาตต่างๆ มีการดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้องทุกอย่าง หากใครอยากมาดูน้องทั้ง 2 ก็มาดูได้ที่ร้าน.