ร้านคาเฟ่แมว โพสต์ขอบคุณคนที่ห่วงใย หลังลำดับเหตุการณ์คดีฟ้องร้อง จากเหตุลูกค้าถูกแมวกัดบาดเจ็บ ทำให้ต้องปรับระบบในร้านใหม่ มีผลบังคับใช้ภายในเดือนนี้ 

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงบนโลกโซเชียล เมื่อเฟซบุ๊กเพจ "Mohu Mohu Café คาเฟ่แมว" ได้โพสต์ข้อความแจ้งลูกค้าที่ให้การสนับสนุนว่า จะมีการนำระบบใหม่มาบังคับใช้ โดยต้องให้ทุกท่านเซ็นแบบฟอร์มยินยอมที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนนี้ ซึ่งรายละเอียดของเหตุผลในครั้งนี้จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

ก่อนที่ต่อมาทางร้านจะโพสต์ข้อความลำดับเหตุการณ์คดีฟ้องร้องคาเฟ่แมว Mohu Mohu Café โดยระบุว่า

1. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โจทก์ได้มาที่ Mohu Mohu Cafe เพื่อใช้บริการ ทางร้านจึงแจ้งโจทก์เกี่ยวกับข้อตกลงการใช้บริการ และแจ้งว่าแมวอาจกัดหรือข่วนได้ เมื่อแจ้งเงื่อนไขการใช้บริการเรียบร้อยแล้วจึงให้โจทก์เข้าใช้บริการได้

2. ในวันเดียวกัน ระหว่างที่โจทก์ใช้บริการคาเฟ่อยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนที่ทางคาเฟ่ใช้เป็นห้องแมว โจทก์ได้ทำการเล่นกับแมวชื่อเรนะ เรนะได้ขึ้นไปบนกระโปรงของโจทก์ และมีการกัดกระโปรงของโจทก์เล่น หลังจากนั้นโจทก์ได้ใช้กระโปรงในการเล่นกับเรนะ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ถูกเรนะกัดที่กระโปรง

3. หลังจากที่โจทก์ถูกแมวชื่อเรนะกัด โจทก์ได้เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อแจ้งกับพนักงานว่าได้รับบาดเจ็บจากการถูกแมวกัด พนักงานจึงได้ทำการปฐมพยาบาลทันทีด้วยการทายาล้างแผลและติดพลาสเตอร์ให้กับโจทก์ และทางพนักงานได้แจ้งกับโจทก์ว่าแมวทุกตัวของทางร้านมีการฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ อย่างครบถ้วนแก่โจทก์

4. หลังจากที่พนักงานร้านได้ทำการปฐมพยาบาลให้โจทก์เสร็จแล้ว โจทก์ได้ทำการยืมผ้ากันเปื้อนจากทางร้านเพื่อไปเล่นกับเมวที่ชั้น 3 อีกเป็นเวลาประมาณ 50 นาที

5. จากนั้นเมื่อโจทก์ใช้บริการเสร็จ โจทก์เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อทำการจ่ายเงินกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นจำเลย และจำเลยได้มีการถามโจทก์ว่าถูกกัดมาหรือเปล่า โจทก์ได้แจ้งว่าแมวอาจจะคิดว่ากระโปรงคือทิชชูจึงกัด หลังจากนั้นโจทก์ได้ทำการชำระค่าใช้บริการและออกจากร้านไป

6. ภายในวันเดียวกันเวลา 17.00 น. โจทก์ได้โทรติดต่อเข้ามาที่ร้านและถามว่าแมวได้มีการฉีดวัคซีนหรือไม่ และมีใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ตอบว่ามีการฉีดวัคซีนและมีใบรับรอง

...

7. หลังจากนั้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.16 น. โจทก์ได้มีการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชัน Instagram มาที่กล่องข้อความของ Instagram ของทางร้าน และบอกให้ทางร้านตอบกลับภายในเวลา 1 วัน แต่จำเลยไม่ได้ตอบกลับในเวลาที่โจทก์ต้องการ เนื่องจากจำเลยไม่ได้ตั้งค่าการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันดังกล่าวเอาไว้ จึงถูกโจทก์ตำหนิว่าละเลยและไม่มีความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น

8. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการโทรติดต่อมาที่ร้านและแจ้งว่าโจทก์ต้องการดำเนินคดีกับจำเลย โดยโจทก์ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเจ้าของร้านไม่ตอบกลับข้อความในแอปพลิเคชัน Instagram และข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Mohu Mohu Café รวมถึงมีการโทรติดต่อมาที่ร้านแล้วแต่กลับถูกจำเลยละเลย แต่ในความเป็นจริงโจทก์ส่งข้อความมาแค่ในแอปพลิเคชัน Instagram เพียงที่เดียวเท่านั้น และยังโทรติดต่อเข้ามาหาจำเลยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 เพียงครั้งเดียว

9. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งจำเลยว่าให้ไปที่สถานีตำรวจในวันที่ 18 กุมภาพัน์ 2567 นั้นทันที แต่เนื่องด้วยจำเลยไม่สะดวกที่จะไปพบตำรวจในวันและเวลาดังกล่าวเนื่องจากเป็นวันที่ร้านมีลูกค้าเยอะที่สุด จำเลยจึงไม่ได้ออกจากร้านไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จำเลยได้แจ้งเจ้าหน้าตำรวจที่สถานีตำรวจบางรักว่า ให้มาที่ร้านที่เกิดเหตุได้หรือไม่ เพราะอยู่ห่างเพียง 240 เมตรจากสถานี แต่ถูกปฏิเสธ จำเลยจึงขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ แต่ก็ถูกโจทก์ปฏิเสธเช่นกัน

10. หลังจากได้วางสายโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 แล้ว จำเลยได้เข้าแอปพลิเคชัน Instagram เพื่อทำการอ่านข้อความของโจทก์และตอบข้อความของโจทก์ทันที และโจทก์กล่าวว่า ‘ไม่ต้องขอโทษแล้ว มันสายไปแล้ว’

11. วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 จำเลยได้รับหมายศาลจากกรณีที่เกิดขึ้น จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อศาล

ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ แมวกัดหรือข่วนเป็นเรื่องปกติมากๆ นี่เลี้ยงแมวที่บ้านยังข่วนเลยค่ะ ว่าแต่คุณตำรวจทำงานเร็วมากเลยนะคะคดีนี้ ภายใน 1 อาทิตย์โทรหาจำเลยแล้ว, เขาไม่รู้เหรอคะว่าธรรมชาติของแมวเป็นยังไง ถ้าไม่เตรียมใจว่าอาจเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ก็ไม่ต้องมาแต่แรกเนอะ คือมันเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้อยู่แล้วนะ, จะไปอุดหนุน และให้กำลังใจครับ, บอกเลยเรื่องเล่นกะแมวโดนแมวข่วน กัดเป็นธรรมดามากกกกกก สงสารร้านละ ฯลฯ

ซึ่งต่อมาทางร้านได้โพสต์คำฟ้องโดยสรุป ระบุว่า

1. สถานะโจทก์และจำเลย

- โจทก์เป็นผู้รับบริการและผู้บริโภค
- จำเลยเป็นบริษัทจำกัดที่ดำเนินกิจการคาเฟ่, ร้านกาแฟ และเบเกอรี่

2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

- วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โจทก์เข้าใช้บริการที่ Mohu Mohu Cafe และถูกแมวกัดและข่วน
- โจทก์มีโรคประจำตัวที่ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในทันที
- จำเลยไม่ได้แสดงความเป็นห่วงหรือขอโทษโจทก์
- โจทก์ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาแผลและฉีดวัคซีน

3. การเจรจากับจำเลย

- โจทก์ได้ติดต่อจำเลยผ่านทาง Instagram, Facebook และโทรศัพท์ แต่ไม่ได้รับคำตอบหรือคำขอโทษใดๆ จากจำเลย
- โจทก์แจ้งความที่สถานีตำรวจแต่จำเลยเพิกเฉยและไม่ยอมเจรจา

4. ความเสียหาย

- โจทก์เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าเดินทาง และค่าเสียเวลา รวมเป็นเงิน 25,000 บาท

5. การฟ้องร้อง

- โจทก์ต้องการให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเสียหายรวม 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี
โจทก์ต้องการให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากการละเมิดสิทธิและเพิกเฉยต่อการเจรจา

อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้โพสต์ถึงคนที่ติดตามเรื่องนี้ด้วยว่า "ขอบคุณสำหรับความห่วงใยและคำพูดที่อบอุ่นรวมถึงการบริจาคให้กับร้าน Mohu Mohu Café เป็นอย่างมาก ขอโทษที่แจ้งช้าไป แต่เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว กรุณาสบายใจได้ ได้เวลาที่จะแบ่งปันรายละเอียดต่อไป"

ก่อนที่จะมีคนเข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติม โดยอธิบายว่า เรื่องนี้จบที่ไกล่เกลี่ย คนฟ้องไม่ได้เงินตามที่เรียกร้อง และเราคิดว่า ร้านชนะนะคะ ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เพราะการสนับสนุนจากทุกคนในวันนี้ทั้งทาง social และคนที่ไปร้านมาในวันนี้ เนื่องจากร้านแตก คนแน่นทุกโต๊ะ.

ที่มา และภาพจาก เฟซบุ๊ก Mohu Mohu Café คาเฟ่แมว