แม่โวยโรงเรียนประจำ อ้างลูกชาย ม.1 ถูกกลุ่มเพื่อนรุมทำร้าย แจ้งครูกลับได้รับคำตอบเป็นการเล่นกันเองของเด็ก ล่าสุดตำรวจนัดวันคุยไกล่เกลี่ยแล้ว

จากกรณีที่ เพจอีซ้อขยี้ข่าว มีการโพสต์เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่ง ถูกเพื่อนๆ รุมทำร้ายภายในโรงเรียนประจำใน อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งต่อมาแม่ของเด็กสอบถามเรื่องนี้ไปที่ ผอ.โรงเรียน ก็ได้รับคำตอบว่า เด็กกลุ่มที่รุมทำร้ายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมอยู่ในบัญชีดำของโรงเรียน จึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งแม่ของเด็กมองว่าไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีการดำเนินการใดๆ จากนั้นจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ น.ส.ฟารีด้า ตุลา อายุ 35 ปี แม่ของเด็กที่ถูกทำร้าย และ ด.ช.แก้ว (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ได้โชว์บาดแผลที่ถูกทำร้ายให้ดู เป็นรอยฟกช้ำบริเวณต้นแขนทั้ง 2 ข้าง โดย น.ส.ฟารีด้า เผยว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ ช่วงเช้าของวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา วันเกิดเหตุตนเดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่โรงเรียน และลูกชายวิ่งร้องไห้มาหาตน บอกกับตนว่าถูกเพื่อนรุมทำร้าย จึงสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบว่าลูกชายถูกกลุ่มเพื่อนที่รุมทำร้าย มาขอสิ่งของจากลูกแต่ลูกไม่ให้จึงโดนรุมต่อย

...

จึงนำเรื่องนี้บอกให้ครูประจำชั้น และ ผอ.รับทราบก็ได้รับคำตอบว่าเด็กหยอกเล่นกัน และเด็กกลุ่มที่รุมทำร้าย มีพฤติกรรมแบบนี้ประจำ โรงเรียนมองเป็นแค่การหยอกเล่นกัน แต่ตนมองว่าไม่ถูกต้อง จึงไปแจ้งความไว้ ดำเนินคดีกับเด็กที่ทำร้าย และโรงเรียน เพื่อขอให้ออกมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย โดยทางตำรวจจะนัดทางโรงเรียนมาพูดคุยกับตนในวันพรุ่งนี้

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนคูเวตวิทยานุสรณ์ ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ โรงเรียนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำแบบชายล้วน เปิดสอนตั้งแต่ชั้น ม.1 - ม.6 และมีอาคารหอพักของเด็กภายในโรงเรียน ครูฝ่ายปกครองพาผู้สื่อข่าวเข้าดูห้องของเด็กชายที่ถูกกระทำ เป็นห้องพักลักษณะเตียงสองชั้นพัก 8-10 คน

จากนั้นผู้สื่อข่าวพูดคุยกับ น.ส.วิภาวรรณ กุลการ ผอ.โรงเรียน สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทราบว่า เช้าวันเดียวกันนี้ ทางศึกษาธิการ จ.กระบี่ เดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน โดยโรงเรียนอธิบาย และทำรายงานชี้แจงให้ทราบแล้ว

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนเชิญให้เด็กอีก 9 คน มาให้ข้อมูลโชว์ท่อนแขนที่มีรอยช้ำให้ดู เพื่อยืนยันว่าเป็นการเล่นกันเองของกลุ่มเด็กๆ ไม่ได้มีการรุมทำร้ายใครคนใดคนหนึ่งตามที่ถูกกล่าวหา ในส่วนของแม่เด็กที่ถูกกระทำ ซึ่งไปแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง นั้น ล่าสุดทางโรงเรียนได้รับการติดต่อจากตำรวจ นัดให้ไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับแม่ของเด็ก ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ที่ สภ.อ่าวนาง

น.ส.วิภาวรรณ ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่มีผู้ปกครองโพสต์ลงโซเชียล หลังเกิดเหตุตนให้ครูฝ่ายปกครองตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทันที ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าเด็กที่ผู้ปกครองอ้างว่าถูกทำร้ายนั้น ไม่ได้ถูกทำร้ายตามที่ผู้ปกครองสงสัย แต่เป็นการเล่นกันเองของเด็ก

โดยแต่ละห้องพักของโรงเรียน จะมีเด็กพักอยู่ด้วยกัน 8-10 คน วันเกิดเหตุคือช่วงเย็นของวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากครูปล่อยเด็กเข้าห้องพักแล้ว เด็กๆ ก็เล่นกันโดยจับเป็นคู่แล้วให้ต่อยแขนกัน เด็กจะเรียกการเล่นแบบนี้ว่า "แลกหมัด" โดยเด็กกำหนดกติกาให้ต่อยได้เฉพาะส่วนแขน แต่ห้ามต่อยใบหน้า ซึ่งกติกาการเล่นดังกล่าว ทางโรงเรียนเองก็ไม่เคยรับทราบมาก่อน ทำให้คุณครูที่ควบคุมหอพักไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จนพ่อแม่เด็กมาโพสต์ลงโซเชียลดังกล่าว

หลังเกิดเหตุก็เรียกเด็กกลุ่มที่เล่นลักษณะแบบนี้มาพูดคุยว่ากล่าวตักเตือน โดยทำทัณฑ์บนเอาไว้ และแจ้งให้ผู้ปกครองทุกคนทราบ เพราะเป็นความผิดครั้งแรก แต่หากกระทำความผิดเกิน 3 ครั้ง ก็จะถูกให้ออกจากโรงเรียน ในส่วนของเด็กที่ถูกกระทำ หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะติดต่อไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับผู้ปกครอง และรับปากว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก ส่วนตัวอยากให้เด็กที่ถูกกระทำกลับมาเรียนเหมือนเดิม ซึ่งต้องอธิบายให้แม่ของเด็กเข้าใจ ยอมรับว่าเป็นการเล่นกันที่รุนแรงเกินไป หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการควบคุม ไม่ให้เด็กเล่นกันรุนแรงแบบนี้อีก

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามจากกลุ่มเด็กที่เล่นลักษณะดังกล่าวด้วยกัน เด็กต่างยืนยันว่า ไม่ได้โกรธเคือง หรือตั้งใจจะรุมทำร้ายแต่อย่างใด แต่เป็นการเล่นประลองกันตามประสาเด็กผู้ชาย โดยให้จับคู่เล่นกันแล้ว หลังเล่นกันเสร็จก็จะจับมือขอโทษและไม่ผิดใจกัน เพราะไม่ได้เกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมการเล่นลักษณะดังกล่าว เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในโรงเรียนนี้ เนื่องจากเด็กกลุ่มที่เล่นกัน เป็นกลุ่มเด็กเข้าใหม่ เพิ่งเปิดเทอมมาได้แค่ 1 เดือนเศษ.