จากคลิปสาวหน้าตาดี เร่ร่อนนอนใต้สะพาน จนชาวเน็ตเป็นห่วงความปลอดภัย พบเป็นอดีตดาวเด่นร้านดัง มีเงินเก็บเป็นสิบล้าน อดีตสามีที่มีลูกด้วยกันวัย 4 ขวบ อ้างถูกไล่ออกจากบ้านไป เพราะยาเสพติด

วันที่ 10 มิ.ย.67 จากกรณี เฟซบุ๊กเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว3" ได้โพสต์ภาพ สาวเร่ร่อนรายหนึ่ง หน้าตาดี รูปร่างดี พร้อมแคปชั่นระบุว่า "ตามหาญาติและขอเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือวัยรุ่นสาวหน้าตาดีคนนึง ที่กลายเป็นคนเร่ร่อน อาศัยอยู่ใต้สะพานตรงทางรถไฟตึกใบหยก ประตูน้ำ...น้องคือใครทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้...คลิปในคอมเมนต์"

ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่คนใจบุญกำลังนำข้าวไปแจกให้กับคนเร่ร่อนบริเวณนั้น และพบเธอเข้าโดยบังเอิญ ซึ่งหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายคนอยากให้มีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือเธอ เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย ขณะที่มีบางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็น อ้างว่า เธอมาอยู่ตรงนี้นานแล้ว และมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน

ซึ่งต่อมา เพจอีซ้อขยี้ข่าว3 ก็ออกมาให้ข้อมูลว่า เธอชื่อแจน แต่ก่อนเป็นคนสวยแถมที่บ้านก็มีฐานะ ตอนที่พ่อแม่เสียชีวิตได้มอบมรดกซึ่งเป็นที่ดินไว้ให้ แต่เธอนำไปขายและได้เงินมาหลายล้าน แต่ใช้เงินฟุ่มเฟือย เอาเงินเกือบทั้งหมดไปซื้อยามาเล่นกับแฟน พอเงินหมดก็ย้ายมานอนกันอยู่ที่ใต้สะพานกลายเป็นคนไร้บ้าน


...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า เธอชื่อ "แจน" อายุ 34 ปี อดีตเคยเป็นพนักงานนั่งดริงก์ ที่ร้านชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย แต่ชีวิตพลิกผันไปยุ่งกับยาเสพติดจนหมดตัว 

เบื้องต้น จากการพูดคุย พบว่าแจนพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอบไม่ค่อยตรงคำถาม เมื่อถามก็บอกว่าบ้านตัวเองอยู่ต่างประเทศ และที่มาอยู่ใต้สะพาน เพราะว่ามารอเพื่อน ทุกวันนี้ก็ไม่ต้องทำงาน เพราะญาติเยอะ 

จากการสอบถาม เพื่อนของเพื่อนแจน ซึ่งวันนี้เป็นคนมาพาไปลงบันทึกประจำวัน บอกว่า หลังจากเห็นคลิปก็จำได้ว่าเป็นแจน และเธออยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยแจนด้วย เนื่องจากรู้มาว่าตอนที่อยู่ใต้สะพานถูกล่วงละเมิดเป็นประจำจากคนเร่ร่อน และเมื่อไปดูใต้สะพาน จุดที่แจนอยู่ ก็พบว่ามีเพียงเสื้อผ้าบางส่วนเท่านั้น

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้เจอกับ นายต้น อายุ 42 ปี อดีตแฟนหนุ่มของแจน ซึ่งเดินอยู่ในชุมชนหลังโรงพยาบาลเดชา (เดิม) อ้างว่า ตัวเองติดคุกคดียาเสพติด 4 ปี ระหว่างนั้นก็ให้แจนอยู่กับแม่ที่บ้าน แต่แจนไม่ทำงาน และยังเสพยา จนแม่ไล่แจนออกจากบ้าน แจนไม่มีที่ไป จึงไปนอนใต้สะพาน กระทั่งไปเจอกับนายช้าง ซึ่งเป็นคนเร่ร่อน และเชื่อว่าน่าจะมีความสัมพันธ์กัน ในฐานะอดีตแฟน ซึ่งมีลูกด้วยกัน อายุ 4 ขวบ ก็รู้สึกเป็นห่วง

นายต้น ยังบอกด้วยว่า ช่วงที่พบรักกับแจน ตอนนั้นแจนทำงานอยู่ที่ร้านย่านสะพานควาย ตอนนั้นแจนมีเงินเป็นล้าน แต่เพราะไปยุ่งกับยาเสพติด ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย จึงมีชีวิตอย่างที่เห็นตอนนี้ ส่วนตัวเองก็ยังรักและผูกพัน เพราะมีลูกด้วยกัน ตัวเองก็ยังไม่มีใคร ถ้ารักษาหายแล้ว จะมาอยู่ด้วยกันก็ได้ แต่ต้องหางานทำ

ขณะที่ เฮียตี๋ เจ้าของค่ายมวยทีเด็ด99 และสถานบันเทิงย่านสะพานควาย ที่แจงเคยทำงานอยู่ เล่าว่า แจงเป็นลูกน้องเก่า ตอนที่อยู่สถานบันเทิง แจงคือดาวเด่นของร้าน มีเงินเก็บเป็นสิบล้าน แต่ชีวิตตกอับ เพราะไปคบกับอดีตสามี เงินที่หามาได้ทั้งหมดก็หมดไป โดยที่ไม่รู้ว่าเอาไปใช้อะไร ซึ่งก็รับไม่ได้ที่อดีตลูกน้องมีชีวิตแบบนี้ ตอนนั้นพอเห็นคลิปก็รีบมาดู พบแจงอยู่กับต้น ยังให้เงินเอาไว้ 2,000 บาท และบอกว่าอย่ามาอยู่ใต้สะพานแบบนี้ ให้ไปอยู่ห้องเช่า แล้วจะออกเงินให้

"ปัญหาคือยาเสพติดนี่แหละ ถ้าแก้ปัญหาได้ ผมว่าเขาคืนสู่สังคมได้แน่นอน เราไม่อยากเห็นสภาพเขาแบบนั้น เราอยากจะช่วยเขา" เฮียตี๋ กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาตรวจอาการทางจิตเวชของแจงแล้ว และจะส่งตัวไปบำบัดรักษาอาการทางจิต ก่อนจะประสานญาติให้มาดูแลช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจากข้อมูลตามบัตรประชาชน พบว่า แจง มีภูมิลำเนาอยู่ที่พิษณุโลก แต่บ้านเลขที่ของแจง ไม่มีอยู่แล้ว และทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่า แจงเป็นคนที่นี่จริง เมื่อ 10 ปีก่อน เคยเจอ ตอนนั้นแม่ของแจงยังมีชีวิตอยู่ ต่อมาแม่เสียชีวิต แจงก็ยังอยู่ หลังจากนั้น 5 ปี พ่อเสียชีวิต แต่ไม่มีใครติดต่อแจงได้ ทางญาติและเพื่อนบ้านก็ช่วยกันจัดงานศพให้ พอทั้งคู่เสียชีวิตไป แจงเคยกลับมาที่บ้าน และมาทำเรื่องขายบ้าน ปัจจุบัน บ้านหลังนั้นก็กลายเป็นบ้านเช่าไปแล้ว ตอนนั้นก็รู้สึกว่าแจงเริ่มพูดจาไม่ปกติแล้วด้วย รู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้าง เมื่อขายเสร็จก็ไม่เคยมีใครเห็นอีกเลย จนมาเห็นจากคลิปในโซเชียล.

โพสต์จาก เฟซบุ๊กเพจ อีซ้อขยี้ข่าว3