จากปัญหาบุหรี่เถื่อน ถึงบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อน สะท้านสังคมไทย พบเยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า

ปัญหาการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อน โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย ตัวเลขการส่งออกล่าสุดจากรายงานศุลกากรจีน พบว่าตัวเลขการส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าจากจีนมาไทยในปี 2024 นั้น สูงถึง 1,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังปรากฏจากรายงานข่าวของกรมศุลกากรว่า ครึ่งเดือนพฤษภาคมมียอดการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าถึง 1.2 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่า 12 ล้านบาท นั่นหมายความว่า บุหรี่ไฟฟ้าได้ทะลักเข้ามายังประเทศไทยมหาศาล แม้ประเทศไทยจะกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน 

หมอประกิต ชี้ถึงเวลาป้องกันลูกหลานจากบุหรี่ 

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้เผยถึงความน่ากลัวและปัญหาการเข้ามาของบุหรี่ไฟฟ้า ในงานปาฐกถาพิเศษ "ความเสียหายจากการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในสังคมไทย" เมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า การมาของบุหรี่ไฟฟ้าเรียกได้ว่าเป็นหายนะด้านสุขภาพของเด็กไทย จากผลสำรวจการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กไทยในปี 2565 พบว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าคนรุ่นก่อน หรือคนรุ่นพ่อแม่มากกว่าถึง 5.3 เท่า โดยแยกเป็นเยาวชนชายเพิ่มขึ้น 4.7 เท่า และเยาวชนหญิงเพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่า

สิ่งที่น่ากลัวสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชน ก็คือการทำรูปลักษณ์ให้ดูน่าใช้ เป็นตัวการ์ตูนที่มีสีสัน และมีรสชาติของบุหรี่ให้มากกว่า 16,000 ชนิด ในขณะที่นักการเมืองไทยหลายท่าน สนับสนุนให้นำบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย แล้วควบคุมโดยห้ามใช้สารแต่งกลิ่นและรสชาติในบุหรี่ไฟฟ้า แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั่วโลกคือคนสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 100 เลือกสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติ

...

บุหรี่ไฟฟ้า (เถื่อน) "สินค้านำเข้า" ที่หายไป

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊กผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า "มนุษย์ควัน" ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ยอดส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าจากจีนมาไทยปีก่อนอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท หรือประมาณเดือนละ 133 ล้านบาท ในขณะที่ตัวเลขการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบเข้ามายังประเทศไทย โดยกรมศุลกากรไทย ระบุว่า ในเดือน พ.ค. 2567 มีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ และสามารถจับกุมได้ คิดเป็นมูลค่าเพียง 12 ล้านบาทในเดือนเดียว จึงเกิดเป็นช่องว่างที่หายไปของบุหรี่ไฟฟ้า ว่าไปอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ยังไม่นับรวมการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในหลายพื้นที่ เช่น ที่ จ.ชลบุรี ที่นำของกลางไปขายต่อ มีการจัดฉากกับร้านค้าผิดกฎหมาย ที่จับกุมพอเป็นพิธี ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งที่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย 

สาวไส้ "ไอ้โม่ง" ตัวการนำเข้ารายใหญ่

เป็นที่น่าสนใจว่า ถ้าวันนี้เรามีรายงานตัวเลขส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าจากจีน ก็ควรมีเอกสารหลักฐานที่ปรากฏถึงข้อมูลปลายทาง ว่าใครเป็นผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากทางฝั่งไทย เพราะจะบอกว่าไม่มีผู้รับ ย่อมเป็นไปไม่ได้ ไม่แน่ใจว่ากรมศุลกากรจะสามารถตรวจสอบข้อมูลในส่วนนี้ และดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดได้หรือไม่

หรืออันที่จริงแล้ว มี "ไอ้โม่ง" ระดับบิ๊ก เป็นตัวการใหญ่ที่สาวไปเท่าไรก็ไม่ถึง ขอฝากไปถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเดินทางไปดูงานที่ประเทศจีนเดือนมิถุนายนนี้ เป็นการบ้านที่จะคุยกับประเทศจีน เพื่อสืบสวนเสาะหาผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าในไทย ที่ตัวเลขของจีนกล่าวถึงเป็นหลักพันล้าน ว่าเป็นใครกันแน่   

ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมเสมอมาเรื่องความเข้มงวดกับบุหรี่ แต่ปัจจุบันเหมือนจะเสียทีให้กับบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าที่นำเข้ามาอย่างไม่ถูกกฎหมาย ในวันงดสูบบุหรี่โลก อาจจะเป็นหมุดหมายที่ดีที่กระตุ้นเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หันมามองปัญหานี้อย่างจริงจังบนพื้นฐานของความเป็นจริง ว่าจะสามารถจับกุมได้หมดไปจากประเทศได้จริงหรือไม่ หากเป็นไปไม่ได้ เราจะมีแนวทางอย่างไรในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้สะเด็ดน้ำเสียที หรือจะปล่อยให้ประเทศไทยเป็นเมืองหลวงของบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

แหล่งที่มา คุณหมอประกิต