คืบหน้ากรณีสัมพันธ์ฉาว "กุสุมา-สันป่าเหียง" สาวแฉแฟนหนุ่มที่คบ 9 ปี นอกใจไปคบครูรุ่นน้อง ล่าสุดโรงเรียนสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันที่ 24 เม.ย. 67 มีรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความร่ายยาวถึงความรัก 9 ปีที่มีต่อแฟนหนุ่มที่เป็นครู ก่อนที่จะถูกหักหลังโดยเนื้อหาพอสรุปใจความได้ว่า คบหากับแฟนหนุ่มมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบันร่วม 9 ปี และตัดสินใจทิ้งครอบครัวและเพื่อนมาอยู่กับเขาเพื่อตั้งใจจะสร้างอนาคตร่วมกันตั้งใจทำงาน ทำโอที เพื่อเก็บเงินสร้างธุรกิจด้วยกัน จนแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเพราะทำงานหนัก
สุดท้ายสังเกตพฤติกรรมของแฟนหนุ่มเปลี่ยนไป เช่น จอดรถนาน เข้าห้องน้ำนาน หลังๆ ชอบคุยถึงหญิงคนนี้บ่อย จึงแอบดูมือถือฝ่ายชายถึงกับอึ้งเจอแชตคุยสาวอื่นแบบลึกซึ้งจนความรักไปต่อไม่ได้นั้น (อ่านข่าว เปิดที่มาไวรัล "กุสุมา-สันป่าเหียง" สาวคบแฟน 9 ปี โดนนอกใจไปหาครูรุ่นน้อง)
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สพป.ลำพูนเขต 1 พบกับ ดร.กฤติน พันธุ์เสนา รอง ผอ.สพป.ลำพูนเขต 1 และนายวีรยุทธ์ จิตรปราณี ผอ.โรงเรียนบ้านสันป่าเหียง
โดย รอง ผอ.สพป.ลำพูนเขต 1 เปิดเผยว่า ทางเขตทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและครูที่ถูกพูดถึงในโซเชียลเป็นครูจริง เบื้องต้นได้ให้ทาง ผอ.โรงเรียนตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง มีการตั้งคณะกรรมการไปแล้ว และต้องให้เวลาคณะกรรมการได้ทำการสืบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนอย่างแน่นอน
ด้าน ผอ.โรงเรียนบ้านสันป่าเหียง เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นกระทบต่อความรู้สึกของทุกฝ่ายตนเองในฐานะผู้บริหารโรงเรียนจะดำเนินการตามอย่างตรงไปตรงมาและเป็นไปตามระเบียบของกระทรวง ขั้นแรกจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบหาข้อเท็จจริงกับครูทั้ง 2 คน และต้องให้เวลาคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาทำงานก่อน เรื่องนี้ก็ยอมรับมีผลกระทบกับชุมชนบ้าง แต่คนในชุมชนน่ารัก ทุกคนก็เข้าใจ และให้กำลังใจกับทางโรงเรียน
...
ส่วนที่เรื่องนี้มีการลามไปถึงพระจนพระต้องออกมาโพสต์ในเพจของวัดว่า พระไม่รู้เรื่องห้ามถามและไม่ใช่ของสันป่าเหียงนั้น เนื่องจากบริบทของชุมชนคือบ้าน-วัด-โรงเรียนก็ย่อมกระทบแต่เราก็ทุกข์-สุขด้วยกันเป็นเรื่องธรรมดา และเท่าที่ทราบข้อมูลบางอย่าง ส่วนหนึ่งก็จริง ส่วนหนึ่งไม่จริง ก็มีแต่ครูทั้งสองคนเลือกที่จะไม่ตอบโต้และเข้าสู่ระบบการตรวจสอบของกระทรวง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.