มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา สั่งพักงาน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีกู้ภัยถูกสาวกล่าวอ้างล้วงกางเกงจับของสงวน หากพบว่าผิดจริงจะพ้นสภาพจากการเป็นอาสาของมูลนิธิฯ ทันที 

วันที่ 21 เมษายน 2567 มีรายงานว่า จากกรณีสาวรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความอ้างว่า ขณะกำลังทำงานอยู่ที่ร้าน ก็มีอาการเป็นลมจากสภาพอากาศร้อน มีอาการตาลาย อ่อนแรง เพื่อนๆ ในร้านจึงแจ้งให้กู้ภัยหน่วยหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ มารับไปส่ง รพ. แต่ระหว่างนั้นโดนกู้ภัยฉวยโอกาสล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงใน จับเข้ากับของสงวน ซึ่งต่อมากลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น

ล่าสุด ทางแฟนเพจ มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ได้ออกแถลงการณ์ประกาศฝ่ายอาสาสมัคร เรื่อง การสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายอาสาสมัคร ตามที่.... เขตอำเภอเมืองกระบี่ ได้ถูกกล่าวหา กระทำผิดวินัยในการทำงาน การคุกคามทางเพศ ในขณะกำลังช่วยเหลือผู้ป่วย และเพื่อความเป็นธรรม มูลนิธิฯ จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่า......กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ โดยพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล มูลนิธิฯ ไม่มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมนั้น

จากการพิจารณาเบื้องต้น พฤติกรรมดังกล่าว เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียร้ายแรง และมีผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก จึงมีคำสั่งให้พักงาน......จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และหากสอบสวนได้รับการตัดสินว่ามีความผิดจริง จะใช้กฎลงโทษขั้นต่อไป คือให้พ้นสภาพจากการเป็นอาสาของมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ทันที 

แจ้งเพื่อทราบและปฏิบัติ ลงวันที่ 19 เมษายน 2667

...

นอกจากนี้ ทางมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ยังได้ชี้แจงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยในไทม์ไลน์ระบุว่า เวลา 14.02 น.

- รับแจ้งจากโทรศัพท์ มีผู้ป่วยเป็นลมบริเวณร้านแห่งหนึ่งในภูเก็ต

- เจ้าหน้าที่ ออกรับ 2 คน ได้แก่ 812 และ 42

- อาการเบื้องต้น คนไข้เป็นลม อาเจียนเป็นเลือด หายใจเร็ว ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น

- หลังจากนำผู้ป่วยขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการวัดสัญญาณชีพ (ความดัน, ชีพจร, ค่าความอิ่มตัว, ออกซิเจน และ อุณหภูมิร่างกาย และปลดตะขอกางเกงเพื่อให้หายใจได้สะดวก

- หลังจากนั้นได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยัง รพ.กระบี่ ใช้เวลา 1 นาที (ระยะทางโดยประมาณ 500 เมตร)

หลังจากออกรับเคสดังกล่าว

- เวลาประมาณ 14.50-15.10 น. ญาติได้เข้ามาที่มูลนิธิ ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ ทางมูลนิธิได้

อธิบายหลักการทำงานและการปฐมพยาบาลผู้ป่วยเป็นลมให้ญาติรับทราบและเข้าใจ ญาติจะไปอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจด้วย

- 18.20 น. รับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ว่าทางผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ และให้ทางเราเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ย ผลสรุป ได้ขอโทษผู้เสียหาย และทางผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ

- ทางหัวหน้าชุดได้สอบถามกับอาสาสมัครคนดังกล่าวแล้วได้ปฏิเสธ แค่ปลดกระดุม พยาบาลในห้องฉุกเฉินก็เห็นว่าแค่กระดุมหลุด ซิปไม่ได้รูดลง แต่คนไข้ยืนยันว่าล้วงเข้าไป

- วันต่อมาได้มีปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ และเบื้องต้นทางมูลนิธิได้สั่งให้พักงานอาสาสมัครคนดังกล่าว เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง.