ผส. เปิดยื่นคำขอสนับสนุนครอบครัวอุปถัมภ์ ดูแลผู้สูงอายุยากจนถูกทิ้ง 2-3 พันต่อเดือน จัดสรรลอตแรก 1,107 ราย ด้าน "รมต.ท็อป" รุกพยายามจัดสรรเพิ่มปีหน้า
วันที่ 20 เมษายน 2567 มีรายงานว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า พม.โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ได้จัดทำโครงการสนับสนุนครอบครัวอุปถัมภ์ เป็นการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่อยู่ในวาระท้ายและครอบครัวมีฐานะยากจน โดยจะได้รับเงินสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวละ 2,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน กรณีมีเหตุจำเป็นและเหมาะสมที่มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นก็จะได้รับเป็น 3,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน
คุณสมบัติผู้ยื่นคำขอรับการสนับสนุน นอกจากบุตรหลาน หรือญาติที่ดูแลไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่มีเพียงพอที่สามารถยื่นได้ ครอบครัวที่มีจิตศรัทธาแต่ขาดกำลังทรัพย์ ก็สามารถยื่นเรื่องเข้ามาดูแลผู้สูงอายุที่ยากจนถูกทอดทิ้งได้ โดยจะได้รับการสนับสนุนไปจนกว่าผู้สูงอายุจะเสียชีวิต หรือมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือบุตรหลานมีความพร้อมที่จะรับไปดูแล
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดให้ผู้เข้าเงื่อนไขยื่นคำขอรับการสนับสนุนแล้ว โดยที่ กทม.ยื่นได้ที่ ผส. หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ต่างจังหวัดยื่นที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ กำหนดยื่นคำขอจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม
จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งมาที่ส่วนกลางเพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้ที่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติ เนื่องจากในปีงบประมาณ 2567 สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้ครอบครัวอุปถัมภ์เบื้องต้นจำนวน 1,107 ครอบครัว เข้าใจว่าผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลสนับสนุนมีจำนวนมากกว่านั้น แต่ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ยื่นคำขอเข้ามาจะรวบรวมเพื่อเป็นฐานในการขอรับการจัดสรรเพิ่มให้ได้มากที่สุดในปี 2568 ต่อไป
...
ต่อข้อถามถึงการคัดเลือกจะป้องกันการฮั้วให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า จะมีนักสังคมสงเคราะห์อยู่ในแต่ละพื้นที่จะเข้าไปสำรวจข้อเท็จจริงว่าผู้ยื่นคำขอเข้าเงื่อนไขหรือไม่ รวมถึงเมื่อครอบครัวได้รับสรรเงินไปแล้วก็จะมีการติดตามแต่ละครอบครัวว่าได้ใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของเงินที่สนับสนุนหรือไม่ อีกทั้งขั้นตอนการพิจารณาเป็นในรูปของคณะกรรมการที่ประกอบด้วยนักสังคมสงเคราะห์และบุคคลภายนอกร่วมด้วย ซึ่งจะพิจารณาคัดเลือกให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ค. เพื่อให้เงินถึงมือครอบครัวอุปถัมภ์โดยเร็วที่สุด.