แม่ค้าปล่อยโฮ เช่าที่เปิดร้านข้าวแกงบุฟเฟต์ได้ 7 วัน อ้างเจอเจ้าของที่ไล่ หมดค่ารีโนเวตไป 4 แสน พยายามเจรจาถามหาเหตุผล กลับไม่ยอมรับสาย
วันที่ 9 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้บัญชี TikTok @piyaratroopngam ได้โพสต์คลิปร้านอาหารของตัวเอง ที่กำลังปิดตัวลง หลังเพิ่งเปิดได้เพียง 7 วัน พร้อมแคปชั่นระบุว่า "ตำนานทำอาหาร อร่อยมาก ลูกค้าเข้าร้านเยอะ แต่สุดท้ายต้องปิดเพราะคนเราใจมันไม่เหมือนกัน" โดยในคลิปมีการอ้างว่า ที่ต้องปิด เพราะเจ้าของที่ไม่พอใจ บอกให้เก็บของทั้งๆ ที่ลงทุนไปมากมาย
ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณร้านแซ่บอีหลี ณ มุกดาหาร 51 ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบว่า ร้านดังกล่าวปิดรั้วหน้าร้านไว้ ภายใน เจ้าของร้านกำลังทำความสะอาดร้านอยู่
สอบถาม คุณปิยรัตน์ รูปงาม เจ้าของร้านข้าวแกงบุฟเฟต์ เปิดเผยว่า ตนมาเช่าสถานที่เพื่อเปิดร้านอาหาร เห็นว่าที่ตรงนี้ทำเลดี มีที่จอดรถรองรับลูกค้าได้ จึงตัดสินใจโทรไปเช่า ก็มีการตกลงเซ็นสัญญาการเช่า จ่ายค่าเช่า 1 เดือน มัดจำ 1 เดือน วันแรกที่ตนเซ็นสัญญาตนโอนไป 70,000 บาท และช่วงรีโนเวตได้คุยกันว่า จะไม่เก็บค่าเช่า เพราะจะให้รีโนเวต เนื่องจากร้านยังไม่ได้เปิดและสภาพโทรมมาก
หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วตนจึงได้พูดคุยกับเจ้าของที่ว่า ขอเวลารีโนเวตหนึ่งเดือน แต่เจ้าของที่ได้ให้เวลาถึงสิ้นเดือนมีนาคมเท่านั้น รวมระยะเวลาประมาณ 20 วัน ตนก็รีบซื้อของมารีโนเวตร้าน เพื่อเปิดให้ทันสิ้นเดือน ระหว่างที่รีโนเวตนั้น ตนก็เปิดขายของ เพื่อที่จะนำเงินขายของมาหมุนเพื่อจะรีโนเวตร้านต่อ และในสัญญาระบุว่าให้ชำระค่าเช่า ทุกวันที่ 5 ของเดือน แต่พอถึงวันที่ 6 เมษายน เจ้าของที่ก็โทรมาทวงว่า ทำไมไม่จ่ายค่าเช่า 35,000 บาท ตนก็ตกใจว่าทำไมต้องจ่าย เพราะตนเพิ่งรีโนเวตร้านเสร็จ และเพิ่งเปิดได้แค่ไม่กี่วัน ทำไมต้องจ่ายเงินตรงนั้น แต่เจ้าของที่ก็ยืนกรานว่าไม่ได้ ถ้าไม่จ่ายก็เก็บของออกไปเลย และบอกว่าตนเป็นคนไปโกงเขา ทั้งที่ตนรีโนเวตหมดไปหลายแสน เพราะร้านใหญ่มาก ซื้อของเข้าร้านอีก ครัวก็ทำใหม่ แถมในสัญญาระบุเริ่มต้นไว้คือวันที่ 1 เมษายน 2567 ซึ่งถ้าครบหนึ่งเดือนจริงตนเองก็ต้องจ่ายในวันที่ 5 พฤษภาคม 2567
...
ตนเองจึงได้พยายามติดต่อเพื่อเจรจากับทางเจ้าของที่ แต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของที่ได้ และไม่พยายามคุยอะไรเลย และตนเองได้ติดต่อไปทางลูกสะใภ้ของทางเจ้าของที่ ซึ่งเป็นคนที่โพสต์ปล่อยเช่าที่ที่ติดต่อกันครั้งแรก ซึ่งทางด้านลูกสะใภ้ก็บอกว่าให้คุยกับทางคุณแม่เลย ซึ่งตนก็พยายามติดต่อไปแล้วแต่ไม่มีการรับสายหรือติดต่อกลับ ตนจึงได้นำเรื่องราวออกมาแชร์ในโลกออนไลน์ เพราะไม่รู้จะทำยังไง ตนไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ซึ่งเขาเป็นเจ้าของที่ เขามีสิทธิ์ไล่ตนแบบนี้จริงหรือไม่ เบื้องต้นมีทนายให้คำปรึกษาตนว่า ไม่จำเป็นต้องออกจากที่นี่เพราะในสัญญาเขาคือเริ่มเช่าวันที่ 1 เม.ย. ต้องยึดตามสัญญาเช่า ถ้าหลังจากนี้เขายังคงยืนยันที่จะเก็บค่าเช่ากับตนก็คงต้องให้เขาคุยกับทนายและไปคุยกันที่ศาลต่อไป
คุณปิยรัตน์ กล่าวต่อว่า ตนอยากบอกเขาว่า เวลาที่คุณทำสัญญาคุณก็ควรที่จะทำให้มันชัดเจนว่าคุณต้องการอะไร ลงให้ชัดเจน และตนรีโนเวตเสียเงินไปเยอะมาก ตนทำมาค้าขายตั้งใจหาเงินมันเสียเวลา เสียความรู้สึก ทำให้มันโปร่งใสแค่นั้นเอง ทั้งที่จริงตนไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ถ้าเขาออกมาเคลียร์ยอดเงินที่รีโนเวตกลับมาให้ตน และคืนค่ามัดจำให้ตน ตนก็พร้อมที่จะย้ายออก เพราะถ้ามันมีปัญหาตั้งแต่ครั้งแรก ต่อไปก็คงจะมีปัญหาเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ตนก็กระทบมาก ทั้งเรื่องการทำงานความรู้สึก ตนไม่มีกะจิตกะใจในการทำงานต่อ ตนเสียใจมากๆ ตอนนี้ความรู้สึกตนแย่มาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ มันพูดยาก แค่ค่าซื้อของรีโนเวตก็ 400,000 กว่า ตนเพิ่งขายของได้เพียงแค่ 7 วัน วันที่ 8 จะให้ออกจากพื้นที่แล้ว ของที่ลงไปจะทำยังไง
สุดท้ายนี้ตนอยากให้เขาทำหนังสือยกเลิกสัญญามาและรับผิดชอบในสิ่งที่ตนสร้างให้เขา แต่นี่เขากลับติดต่อไม่ได้เลย และก็อยากจะฝากทนายหรือคนที่มีความรู้พอจะให้คำปรึกษาได้ แนะนำได้อยากให้เข้ามาปรึกษาว่าควรจบปัญหายังไง เพราะไม่อยากให้ยืดเยื้อ ตนทำมาหากิน ตนอยากให้เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า เพราะตนมีลูกต้องดูแล
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวจะได้พยายามติดต่อทางเจ้าของที่ดิน เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกมุม เพื่อนำเสนอให้ทราบต่อไป.
คลิปจาก TikTok @piyaratroopngam