จุฬาฯ เปิดความหมาย รถไฟฟ้าอัญเชิญพระเกี้ยว แจงทุกสัญลักษณ์มีที่มา ซึ่งนิสิตได้ตั้งใจรังสรรค์ขึ้น คณะผู้จัดงาน ระบุน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุง

วันที่ 2 เม.ย. 67 จากกรณีดราม่า รถกอล์ฟเชิญพระเกี้ยว ในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และฝ่ายที่มองว่า อยากให้เปิดใจมอง และยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เกี่ยวกับเรื่อวนี้ เฟซบุ๊กเพจ "Chula BAKA" ได้ออกมาโพสต์ข้อความอธิบายถึง พระเกี้ยว และการเชิญพระเกี้ยว โดยระบุว่า "พระเกี้ยว เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภาคภูมิใจ สืบเนื่องจากชื่อของมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย

โดยขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 ในครั้งนี้ เหล่านิสิตได้ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการคัดสรรสัญลักษณ์ ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่างๆ มารายล้อมในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว อันประกอบไปด้วย

• เข็มฉีดยาและขวดชมพู่ ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
• หนังสือเล่มหนา ตัวแทนของ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
• ไม้ฉากเรขาคณิต ตัวแทนของ คณิตศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
• เกียร์ ตัวแทนของ วิศวกรรมศาสตร์
• สเลทฟิล์ม ตัวแทนของ นิเทศศาสตร์
• ดัมเบล ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์การกีฬา
• จานสี ตัวแทนแห่งศาสตร์ศิลปะ

โดยสัญลักษณ์เหล่านี้ที่อยู่รายล้อมพระเกี้ยวกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้พัฒนาวงการต่างๆ ในประเทศไทยและในระดับโลก ในทุกยุคสมัย ขณะเดียวกันก็ได้กลับมาโอบอุ้มให้มหาวิทยาลัยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง สอดรับกับพันธกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย

นอกจากนี้ อีกสิ่งประดับตกแต่งขบวนที่ทุกท่านเห็นได้ก็คือ คือ "อะตอม" ที่สื่อถึงส่วนประกอบเล็กๆ ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิต บัณฑิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมแรงร่วมใจไปสู่การเป็นสถาบันเสาหลักที่ยั่งยืนของประเทศ

อีกทั้งขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในครั้งนี้ ยังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้จากพลาสติกที่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างสอดคล้องกับแนวคิดของงานนั่นคือ Unity to Sustainability และร้อยเรียงเป็น "พวงดอกกล้วยไม้ที่ผลิบาน" ดั่งโบราณว่า "กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น แต่ดอกออกคราวไร งามเด่น การศึกษาปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม"

ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงาน น้อมรับฟังทุกความคิดเห็น และยินดีนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป.

...


ที่มาจาก เฟซบุ๊กเพจ Chula BAKA