กลุ่มสาวสอง ไม่พอใจพระครูปลัด โพสต์ "ถ้านางฟ้านางสวรรค์สภาพนี้ ฉันขอตกนรกตลอดกาล" กระทบจิตใจนางรำสาวสอง 7 คน แม้พระปลัดขอโทษผ่านสื่อ แต่ยังไม่ยอม ต้องการให้สึก ด้านพระต้นเรื่องประสานขอพบกลุ่มสาวสองเพื่อขอโทษกับตัวคืนนี้ 1 ทุ่ม
วันที่ 12 มีนาคม 2567 จากกรณีพระครูรูปหนึ่งโพสต์ภาพนางรำ พร้อมข้อความว่า "ถ้านางฟ้านางสวรรค์สภาพนี้ ฉันขอตกนรกตลอดกาล" จนเกิดดราม่าระดับสาวประเภทสองนัดรวมตัวกัน เตรียมไปที่วัดดังกล่าว ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมาพบว่า โพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไปแล้ว ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : นางรำเตรียมบุกวัด โวยโดนหมิ่นศักดิ์ศรี ด้านพระครูรีบแจง แค่หยอกเล่น)
ทั้งนี้ มีรายงานว่า กลุ่มนางรำได้รวมตัวกันแจ้งความเอาผิดไว้แล้ว เมื่อเวลา 19.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ โดยนางรำทั้ง 7 คนเป็นสาวประเภทสองที่ไปรำอาสาด้วยใจ เป็นภาพในงานพระราชทานเพลิงศพพระครูโสภณธรรมาภิมณฑ์ (วิรัติ โสภณสีโล) ผศ.ดร. อายุ 85 ปี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวาพระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดอาม็อง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ณ เมรุวัดอาม็อง ซึ่งภาพกลุ่มนางรำดังกล่าวได้เคยถูกโพสต์ตำหนิในลักษณะนี้มาแล้วหลังจากงานพระราชทานเพลิงศพได้ 1-2 วัน ก่อนจะลบทิ้งไป และเพิ่งมาโพสต์อีกครั้ง เมื่อวานนี้ (11 มีนาคม 2567)
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง วัดอาม็อง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อดูพื้นที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งเป็นภาพต้นเหตุ จากนั้นได้เดินทางไปยัง วัดโสภณธรรมาราม ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับพระรูปดังกล่าว คือ พระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม โดยที่วัดพบตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย เข้าไปเฝ้าระวัง รักษาความสงบเรียบร้อยหลังมีการโพสต์รวมตัวกันของกลุ่มสาวสองดังกล่าว รวมทั้งพบว่า สิ่งก่อสร้างภายในวัด จะใช้สีม่วงทาสีเป็นหลัก เกือบจะทั้งหมด อาทิ ห้องน้ำ เมรุ ห้องพัก ศาลาการเปรียญ และหอระฆัง เป็นต้น
...
พระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโสภณธรรมาราม เปิดเผยว่า ภาพที่ปรากฏในเฟซบุ๊กส่วนตัวและมีภาพน้องๆ นางรำ 7 คนมาออกสื่อ เราไม่ได้มีเจตนาทำร้าย ไปว่าอะไรให้เขาเสียหาย เป็นการหยอกล้อเล่นกันเหมือนพี่เหมือนน้อง เราเห็นแล้วก็หัวเราะกันไปแบบนี้ พอถึงเวลาสื่อออก เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็ขอโทษเขาไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่เมื่อขอโทษแล้ว เขาจะว่าอย่างไรก็เป็นสิทธ์ของเขา เราไม่มีปัญหาอะไร คำพูดนี้ เราล้อเล่นกัน เหมือนพี่น้อง ถ้ามีปัญหาอะไรก็ขออภัยน้องๆ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยที่ทำให้น้องๆ อาจจะเสียชื่อเสียง เป็นภาพที่สื่อเขาถ่ายกันเนอะ เห็นภาพจากเฟซบุ๊กเลยก๊อปมา ก็มาลงแซว ส่วนสังคมก็อาจไปโยงไปดราม่าเกี่ยวกับวงการของท่าน ก็ขออภัยด้วย ส่วนคณะสงฆ์เป็นเรื่องส่วนตัวของตนเอง ส่วนทางปกครองอาจไม่สบายใจก็กราบขอโทษขออภัย พระครู ครูบาอาจารย์ทั้งหลายด้วย
จากนั้นเวลาประมาณ 14.20 น. กลุ่มนางรำได้มีการรวมตัวกันที่ อบต.ท่าสว่าง ตามที่นัดหมาย โดยพบสาวประเภทสองที่มารวมตัวกันประมาณ 30 คน ระหว่างนั้นสำนักพุทธศาสนา จ.สุรินทร์ และเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้ามาร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหาและหาข้อยุติที่เกิดขึ้น แต่กลุ่มนางรำไม่พอใจ แม้พระครูปลัดจะขอโทษผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว โดยระบุว่า เป็นการขอโทษที่ไม่จริงใจ ต้องการให้สึกอย่างเดียว
หม่อมแม่มัช บิวตี้ซาลอน ตัวแทนสาวประเภทสอง (ไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง) กล่าวว่า การรวมตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง แต่เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ไม่ว่าจะเป็นพระหรือคนธรรมดา เรื่องการบูลลี่ การเหยียดควรหมดไปได้แล้ว และยิ่งรู้ซึ้งถึงเจตจำนงที่น้องเขามารำ ไม่ได้ถูกว่าจ้างมารำ แต่มารำด้วยใจให้พระครู เป็นงานพระราชทานเพลิงศพด้วย ที่สำคัญน้องเขาเป็นตัวแทนของชาวบ้านให้ออกมารำ ไม่ใช่ใครก็จะมารำได้ ให้มองตรงนี้ จริงๆ ถ้าหยุดเรื่องอัตตาไม่ได้ก็ยาก ยังติดภาพลักษณ์อัตลักษณ์อยู่เลย ข้างในที่มารำถวายด้วยใจก็สวยที่สุดแล้ว จะมาพิจารณากับรูปลักษณ์ภายในอกก็ไม่ได้ เพราะว่าความสามารถพวกนี้ไม่ได้มีอยู่กับทุกผู้ตัวตน ต้องเกิดจากจิตที่บริสุทธิ์ จิตอาสา ถ้ามองลึกถึงเรื่องนี้ ก็จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
อีกเรื่องคือภูมิคุ้มกันแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นเรื่องเซนซิทีฟ คนที่จิตใจแข็งแรงก็จะมองว่าเรื่องแค่นี้เอง นั่นคือคนที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง ส่วนคนที่เขาจิตใจอ่อนแอ หรือมีจิตใจอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้ คำพูดฆ่าคนได้ การกระทำแบบนี้ฆ่าคนได้ มันลดทอนความมั่นใจกับการกระทำดีด้วย รูปชั่วตัวดำ พฤติกรรมสร้างความดี ประพฤติดี ก่อแต่กรรมดีมันก็สวยจากภายในแล้ว
ด้านคุณอาทิตย์ พิมพ์ศร หนึ่งในนางรำ สาวประเภทสอง กล่าวว่า การที่พระรูปดังกล่าวออกมาขอโทษ พวกเราก็ยังคงไม่พอใจอยู่ เพราะไม่ได้ออกจากใจจริง ขอโทษให้จบๆ เคยทำคนอื่นแล้วขอโทษให้จบๆ มันดูออกว่าปลอมหรือไม่ปลอม ถ้าเป็นพระแล้ว ไม่สำรวม พระพุทธศาสนาไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้ช่วยความคิดให้ดีขึ้นกว่านี้ ก็ควรสึก เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็จะมีครั้งต่อไปเรื่อยๆ กับคนอื่น บางทีไปเจอกับคนที่ทำให้เขาเสียความรู้สึก บางคนก็อาจทำร้ายตัวเองได้เลย ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กๆ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรคิดไตร่ตรองให้มากกว่านี้ เพราะเป็นถึงพระครู สามารถไปเทศน์สอนคนอื่นได้ แต่ไม่สามารถไปเทศน์สอนตัวเองได้เลย
จากนั้น กลุ่มนางรำก็ไม่ได้เดินทางไปที่วัดของพระครูปลัดแต่อย่างใด เนื่องจากพระครูปลัดคนต้นเรื่อง ได้นัดพบกับกลุ่มนางรำ คืนนี้เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ที่วัดสามัคคี ต.ท่าสว่าง แทน เพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยและขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยจะมีผู้หลักผู้ใหญ่จากหลายภาคส่วนมาเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อยุติปัญหาด้วย.