จบภารกิจเคลื่อนย้าย "หัวใจ" 3 ชั่งโมง 10 นาที ครั้งแรกของ รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี มุ่งสู่ รพ.ศิริราช เพื่อปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยโดยตรง ผอ.โรงพยาบาล เผยที่มาของ "หัวใจ"

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 5 ก.พ. 67 ที่ตึกเทพรัตน์ รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี นพ.ธีรพงศ์ ตุนาค ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี พร้อมทีมหมอศัลยแพทย์ รพ.พระปกเกล้า และ รพ.ศิริราช ได้ทำการเคลื่อนย้ายหัวใจไปยัง รพ.ศิริราช เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย โดยในภารกิจเคลื่อนย้ายหัวใจทางรถยนต์ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน จาก ตำรวจทางหลวง, ตำรวจภูธร จ.จันทบุรี, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ตลอดจนทีมศัลยแพทย์ รพ.ศิริราช

โดยในภารกิจเคลื่อนย้ายหัวใจครั้งนี้จะมีขบวนรถออกจาก รพ.พระปกเกล้า 2 คัน คือ รถตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 3 จันทบุรี (ส.ทล.4 กก.3 บก.ทล.) และรถฉุกเฉินทีมศัลยแพทย์ รพ.ศิริราช จากนั้น ส.ทล.3 กก.3 บก.ทล.ระยอง และ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.ชลบุรี จะรับหน้าที่นำขบวน ตามเส้นทาง ทล.3 เข้า ทล.344 ต่อเนื่อง มอเตอร์เวย์ (ทล.7) ด่านบ้านบึง มุ่งหน้าทางพิเศษศรีรัช ลงยมราช ซึ่งเมื่อเข้าเขตกรุงเทพฯ จะมี จร.โครงการพระราชดำริ บก.จร. นำขบวนสู่ ตึกสยามมินทร์ รพ.ศิริราช ต่อไป ซึ่งตลอดเส้นทางการเคลื่อนย้ายหัวใจ ได้รับการสนับสนุนภารกิจจากกำลังตำรวจภูธร จ.จันทบุรี, ระยอง, ชลบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยฯ ตามสีแยกไฟแดงตามเส้นทาง

...



นพ.ธีรพงศ์ ตุนาค ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ภารกิจในการเคลื่อนย้ายหัวใจครั้งนี้ หลังจากได้รับการบริจาคอวัยวะผ่านสภากาชาดไทย โดยผู้ป่วยซึ่งเข้ารับการรักษามีภาวะสมองได้รับการกระทบกระเทือน มีเลือดออกในสมองจากการตกที่สูง ซึ่งทีมแพทย์ทำการรักษาอย่างเต็มความสามารถ แต่มีภาวะสมองตายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางญาติจึงประสงค์บริจาคอวัยวะ โดยทาง รพ.พระปกเกล้า ได้ติดต่อไปยังสภากาชาดไทย จึงได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล รพ.ศิริราช พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์มาทำการผ่าตัดเก็บอวัยวะ รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะ "หัวใจ" ที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ และมีระยะเวลาในการขนย้ายไม่เกิน 4 ชั่วโมงเท่านั้น โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเก็บอวัยวะ และรักษาหัวใจในภาชนะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ

นพ.ธีรพงศ์ เผยอีกว่า ครั้งนี้ถือเป็นเคสแรกของ รพ.พระปกเกล้า ที่มีการเคลื่อนย้ายหัวใจทางรถยนต์ เข้าสู่ รพ.ศิริราช โดยตรง เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย แต่เดิมจะนำส่งไปยังเฉพาะ รพ.ในเขตปริมณฑลเท่านั้น แล้วจึงมีการเคลื่อนย้ายต่อ ส่วนการเคลื่อนย้ายทางเครื่องบินก็สามารถทำได้ แต่ทุกภารกิจต้องใช้เวลา และการเตรียมความพร้อมเหมือนกัน ซึ่งวิธีการไหนที่มีความพร้อมในทุกด้าน ก็สามารถเลือกปฏิบัติได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ภารกิจเคลื่อนย้ายหัวใจในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย รวมไปถึงพี่น้องประชาชนที่ทราบข่าว และอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางอีกด้วย.

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง