เปิดใจ สาวรีวิวใช้เงิน 1,600 บาท เป็นค่าอาหาร 2 คนใน 1 เดือน การันตีกินอิ่ม เมนูหลากหลาย ไม่กดดันตัวเอง

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Amphika Chaikoed ได้โพสต์รีวิวการบริหารเงิน 1,600 บาท สำหรับค่ากินของคน 2 คนใน 1 เดือน ลงในกลุ่ม Freedom Topic พูดคุย-แลกเปลี่ยนประสบการณ์ [TH] 

โดยระบุว่า "รีวิว เงิน1,600 ค่ากิน 2 คนใน 1 เดือน ฉบับคนมีตู้เย็นและเครื่องกรองน้ำ แบบไม่กดดันตัวเอง ใน กทม. ที่อยู่ละแวก ม.ศรีปทุม ม.เกริก ม.ราชภัฏพระนคร

เราซื้อ หมู ไก่ เนื้อ ปลา ลูกชิ้น ไข่ไก่ไซส์ s หรือเรียกง่ายๆ ว่า อาหารสด เครื่องเทศ เส้นแก้ว วุ้นเส้น เส้นหมี่ เส้นสปาเกตตี นม น้ำหวาน ผลไม้ ที่โลตัส เราไปช่วงเวลา 20.00 น. พวกอาหารสด มักจะได้ป้ายเหลือง ราคาลดไปได้เยอะมากกกกก 50% 80%

ข้าว เราดูตามโปรโมชั่น กับเทียบราคาร้านขายส่ง อันไหนข้าวดีถูกกว่า ก็จะเลือกอันนั้น เฉลี่ยเดือนละ 5 กิโล บ้านเราข้าวเหลือตลอดเพราะมีกินอย่างอื่นด้วย (พวกเส้นแห้งจะอยู่ได้นาน ซื้อมาเหลือเหมือนกัน)

ส่วนผัก ไปซื้อที่ตลาดยิ่งเจริญ ราคาถูกมาก ผักเป็นกำ 3 กำ 10 บาท เป็นถุง 20 = 3 ถุง 50 ถ้าไปเจอตอนใกล้เก็บร้าน 18.30-19.00 น. เหลือถุงละ 10 บาท ผักสลัดซื้อมาครึ่งโล (ถุงใหญ่มาก) กิโลกรัมละ 50 บาท ครึ่งโล 25 บาท ได้มาถุงเบ้อเริ่ม ตอนค่ำแม่ค้าขยันแถมสุดๆ ได้ผักมาเยอะแยะหลากหลายมากๆ

นั่งรถเมล์แดงเที่ยวละ 8 บาท นั่งรถเมล์แอร์ 15 บาท bts สายเขียวเที่ยวละ 15 บาท

...

สำหรับเมนูอาหาร มี 2 แบบ หม้อใหญ่ กับทำเฉพาะเมนู รายการอาหารส่วนมากของเราจะซ้ำๆเพราะ เลือกกินเลือกทำแค่อันที่ชอบ"

นอกจากนี้เจ้าของโพสต์ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า หมู สามชั้น เศษไก่ โครงไก่ ปลา หั่น เอามาแยกใส่กล่องไว(กล่องไม่พอใส่ถุง) ให้พอดีกับที่ทาน เวลาเอามาละลายน้ำ จะได้ไม่นาน (ยัดเข้าฟรีซจะอยู่ได้นาน) เราเอาไก่ ไข่ กับหมูมาปั่นรวมกันไว้ ไว้ทำลูกชิ้นหมู เอาไว้ต้มกินกับชาบูน้ำดำก็ได้

สุกี้เราหมักหมูใส่ถุงไว้ตอนจะกินเท ลงต้ม หมูสุกใส่ผัก (แยกเส้นไว้ตอนจะกินค่อยเอาใส่ลงไป) ปลาหมึก หั่นใส่ถุงใส่กล่อง กุ้งเลาะหัวออก หัวเอาไปต้ม ทำต้มยำได้ ส่วนตัวกุ้ง ยัดใส่ช่องฟรีซ ในรูปคือ จะสิ้นเดือนแล้ว ยังเหลือของอยู่

อย่างไรก็ตาม หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปพบว่าได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เข้ามาชื่นชมการวางแผนบริหารเงินของเจ้าของโพสต์ รวมทั้งจะขอนำไปปรับใช้ด้วย

จากการติดต่อสอบถาม เจ้าของโพสต์ เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของไอเดียนี้ว่า เพิ่งทำจริงจังมา ปีนี้เข้าปีที่ 3 แล้ว จุดเริ่มต้น มาจากการเปลี่ยนงาน จากที่เคยทำงานที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร (สวัสดิการ ข้าวพนักงานอร่อยมาก) พอเปลี่ยนสายมาทำงานที่ใหม่ ต้องหาข้าวกินเอง และพบว่า ข้าวไม่ได้อร่อยเหมือนกัน (ที่บ้านของตนทำเกษตรกรรม ข้าวที่บ้านก็อร่อยมากๆ เลย) แต่ที่ทำงานใหม่ข้าวแข็งก็มี กับข้าวข้างทางไม่ได้อร่อยเสมอไป อาหารตามสั่ง ตามสั่งไม่ได้ตามใจลูกค้า แต่ตามใจแม่ค้า

เมื่อไม่ค่อยมีของกินถูกใจ ก็เลยเกิดอาการเบื่ออาหาร ตอนแรกที่บ้านเป็นคนทำให้ หลังๆ มาเลยขอทำกับข้าวเอง พอได้ทำก็ดันสนุกเฉยเลย รวมๆ คือเป็นคนกินยาก เลยหาทางให้ตัวเองได้กินแบบ happy แค่นั้นเลยค่ะ

ถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง ที่มีคนชื่นชอบไอเดียการบริหารเงินและมีหลายคนจะขอนำไปปรับใช้ ส่วนตัวรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจขนาดนี้ ในตอนแรกก่อนที่จะโพสต์ ไม่ได้ตั้งใจโพสต์ในช่องทางส่วนตัว แต่เลือกลงในกลุ่ม ที่มีน้องๆ นักศึกษามาขอคำปรึกษาเรื่องค่ากินระหว่างเรียน เพราะเห็นส่วนมากน้องๆ อยู่ละแวกบ้านเยอะ เลยคิดว่าโพสต์ไปเผื่อไปเป็นแนวทางให้น้องๆ ลองปรับใช้กันดู เพราะเข้าใจว่าช่วงเรียน บางคนใช้งบแบบจำกัดจริงๆ 

สุดท้ายแนะนำว่า ถ้าเราได้กินในสิ่งที่ชอบ ชีวิตจะ happy ขึ้นแบบ 20% อีก 80% เอาไว้ไปไฟต์ปะทะกับปัญหาค่ะ สำหรับใครที่อยากทำตาม คำนวณราคาที่เหมาะสม สร้างความสัมพันธ์อันดีกับพนักงานและเหล่าแม่ค้า การซื้อของจะสนุกขึ้นมากๆ เลยค่ะ.