แม่ใจแทบขาด อ้างครูสั่งทำโทษลูกสาววัย 14 ปี ให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกล้ามเนื้อสลาย ต้องรักษาต่อเนื่องจนกระทบการเรียน แต่โรงเรียนขอให้ปิดข่าว
วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้พบหญิงวัยกลางคน ชาวบ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่ต้องประคองลูกสาว วัย 14 เนื่องจากมีอาการขาอ่อนแรง โดยอ้างว่าสาเหตุมาจากการที่ครูประจำชั้น ทำโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง จนทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลนานเกือบครึ่งเดือน
โดย ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 มัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในอ.สูงเม่น ได้เล่าว่า เหตุดังกล่าว เกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา วันนั้นตนเองไปโรงเรียนสาย เกินเวลา 07.30 น. จึงไปทำเวรไม่ทัน ครูซี (นามสมมติ) ครูประจำชั้น และเป็นครูรายวิชา จึงได้สั่งทำโทษตนเองพร้อมเพื่อนนักเรียนอีก 6 คน โดยการลุกนั่ง 150 ครั้ง แต่ตนเองทำได้แค่ 120 กว่าครั้ง ก็หยุดทำเพราะทำต่อไม่ไหว จากนั้นก็เจ็บเข่า
วันต่อมาก็ยังไปเรียน แต่ทำกิจกรรมอะไรไม่ได้เพราะยังเจ็บอยู่ ได้แค่กินยาแก้ปวด เพราะคิดว่ามันจะหายไปเอง แต่ก็ไม่หาย จึงเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสูงเม่น ตั้งแต่ 28 ส.ค.-11 ก.ย. 66 รวม 15 วัน จนทำให้ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ แต่เมื่อออกมา อาการก็ไม่ดีขึ้น ยังต้องไปรักษาโดยการกายภาพบำบัด
ซึ่งระหว่างที่รักษาตัว ก็ทำให้ไม่ได้เรียน ไม่ได้ส่งงาน ตอนสอบก็ต้องสอบเป็นกรณีพิเศษ แยกห้องสอบ ทำให้สอบไปแบบงงๆ เพราะไม่ได้เรียน ตอนนี้ครูบางวิชาก็ให้ติด ร.ไปก่อน ค่อยเอางานมาแก้ไขทีหลัง
...
ทางด้าน นางเอ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ เผยว่าหลังน้องถูกทำโทษ ร่างกายน้องก็ไม่ดีขึ้น ยืนนานๆ ไม่ได้จะล้ม เดินก็จะล้ม แพทย์โรงพยาบาลสูงเม่น บอกว่า อาการนี้เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อซ้ำกันหลายๆ ครั้ง จนทำให้กล้ามเนื้อสลาย
ไม่สามารถระบุว่า จะหายเมื่อไหร และให้รักษาโดยการกายภาพบำบัดไปตลอด ปัจจุบันยืนได้แค่ 5 นาที ก็จะล้ม แม่ต้องช่วยกันประคอง ไม่ได้ออกไปทำงานเกษตรและงานรับจ้าง ตนเองอยากให้ลูกได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จนกว่าจะหาย
จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม เห็นอาการลูกแม่หัวใจสลาย ลูกเป็นเด็กเรียนดี ผลการเรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.93 เป็นที่ 1 ของห้อง และตอนนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ต่อเนื่องที่โรงพยาบาล ทางโรงเรียนก็ขอให้ปิดข่าว ห่วงชื่อเสียงโรงเรียนจะเสียหาย
แต่ตนเองกลัวลูกพิการ เดินไม่เหมือนเดิม เทอมต่อไปลูกจะไปเรียนได้ไหมก็ไม่รู้ เกรงจะมีผลกระทบทางจิตใจกับน้อง เพราะอยากเรียนตามปกติ เรื่องแบบนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกคนอื่นอีก จึงอยากให้มีการรับผิดชอบ และมีการรักษาแบบเฉพาะทางให้น้องหายเป็นปกติ กลับมาเรียนได้
ทั้งนี้ยังบอกอีกว่า ตนเองมีลูก 2 คน คนโต คือ น้องบี และมีน้องชายอีกคนอายุ 12 ปี เป็นคนพิการทางสติปัญญา ดาวน์ซินโดรม และเป็นใบ้ น้องบีจึงเป็นความหวังของครอบครัว แต่ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นแบบนี้ จึงอยากให้ช่วยเหลือด้วย.