เปิดใจพิธีกรสาว เล่าอุทาหรณ์สุดสะเทือนใจ "หน้าพัง" เป็นแผลไหม้ หลังไปทำเลเซอร์ที่คลินิก บอกเป็นบทเรียนราคาแพง เพราะความเจ็บปวดที่เจอ เหมือนเอา "เตารีด" นาบหน้า

วันที่ 3 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์ จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Issada Aisiri ที่โพสต์ข้อความระบุว่า อุทาหรณ์ บทเรียนราคาแพงของการใช้บริการคลินิกเสริมความงาม เผื่อเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ ทุกคนเลือกให้ดีก่อนเข้าคลินิกต่างๆ วันนี้เอมจะมาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ เห็นภาพก็คงจะตกใจ ที่หน้าเป็นแบบนี้ เอมจะเล่ายาวๆ ไปเลย

วันที่ 3 กันยา 66 ไปกดสิวที่คลินิกในห้างแถวบ้าน ตามปกติ กดเสร็จก็จะเลเซอร์ cellex ต่อ ทำเลเซอร์ที่คลินิกนี้ ตัวเบสิก จะเป็นพนักงานทำ ไม่ใช่แพทย์ Shot แรก รู้สึกร้อนมาก พนักงานปรับให้ เราก็ยังร้อนอยู่ แต่ก็คิดว่าคงร้อนแบบนี้แหละเลยทน

ทำเสร็จความร้อนไม่หายไป แสบร้อนผ่าวทั้งหน้า เอมเริ่มโวยวาย เพราะมันทรมานมากค่ะ อาการอย่างนี้ ไม่ปกติแล้ว ปกติเอมเป็นสายอึดทนมาก พนักงานเอายาสเตียรอยด์มาให้กิน เราก็ไม่กิน เพราะไม่ใช่หมอสั่ง 

...

เอายาสเตียรอยด์มาทา แต่ไม่มีการเอาน้ำแข็ง หรืออะไรมาพัด เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน เรียกได้ว่า การปฐมพยาบาลที่ควรจะเกิด ก็หลังจากโทรคุยกับหมอ เอมต้องพ่นลมเย็น ประมาณครึ่งชั่วโมง ความแสบก็ไม่หายค่ะ รอยไหม้เริ่มขึ้นเป็นแถบ ระหว่างทำพนักงานคนทำก็ขอโทษขอโพยตลอด เราไม่พูดอะไรทั้งนั้น

ตอนนั้นคือโกรธมาก เขาบอกว่าเขาเพิ่งย้ายมา แล้วที่เก่าตั้งค่าคนละแบบกัน ได้ยินก็แบบ มันใช่เหรอ จะเครื่องที่ไหน ก็ต้องรู้วิธีและดูค่าก่อนทำไหม ออกจากคลินิกปุ๊บ ไปแจ้งความจดบันทึกไว้ทันที ความแสบร้อน คือลากยาวจากทุ่มถึงเที่ยงคืน

วันที่ 4 ส่งข้อความให้ทางคลินิกว่าเกิดอะไรขึ้น และคลินิกต้องชดใช้อย่างไรบ้าง และไปหาหมออีกที่เพื่อรักษาทันที คลินิกต้นเรื่องบอกว่าจะรักษาให้หาย แต่เข็ดอะ บอกเลยว่าไม่ไปเหยียบอีก

วันที่ 5 ทนายทางคลินิกโทรติดต่อมา ว่าจากเหตุการณ์ คลินิกผิดจริง จะชดใช้ให้ ขอเราส่งรายละเอียด ค่าใช้จ่ายไป จนปัจจุบันที่ตัดสินใจมาเล่า คือวันที่ 22 เหตุการณ์ผ่านมา 20 วัน เอมไม่ได้อะไรจากคลินิกเลย คำขอโทษ ช่อดอกไม้จากผู้บริหารก็ไม่มี ขอโทษคือมาจากหมอที่พนักงานโทรคุยวันเกิดเหตุ และจากตัวคนทำพลาด

เงินที่เอมจ่ายเพื่อรักษาหน้าตัวเอง จนวันนี้ 32,122 บาท ไม่มีการจ่ายให้ แถมเรียกร้องให้ชี้แจงเอกสารต่างๆ มากมาย เอมรักษาแบบจัดเต็มเลยนะคะ เพราะเอมต้องใช้หน้าตาทำงาน เป็นพิธีกรรายการ เอมก็อยากให้มันหายเร็วๆ งานมันจะได้เดิน

เราจะได้ไม่เสียเครดิตกับทางสถานี เราก็ไม่อยากยืดเยื้อ อยากให้เรื่องมันจบเร็ว ไม่ต้องใหญ่โต ก็ไม่ได้โพสต์อะไร แต่ผ่านมาจะเดือน ยังไม่ได้อะไร และคลินิก ทำกับเราเหมือนเราเป็นคนผิด ที่จะไปเอาเงินจากเขา เราก็ไม่ไหว คือ ความเจ็บ เหมือนเอาเตารีดนาบหน้านั้น คือ คุณทำนะ

การที่เอมต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก ตื่นมาเห็นหน้าตัวเอง ล้างหน้าด้วยน้ำเกลือ โพกหน้าปิดทั้งหมดเพื่อกันแสง อยู่ในที่ร่มก็ต้องปิด ไปไหนคนก็ถาม มองหน้าเราแบบสงสาร คือ มันหนักหนาอยู่นะคะ

ตอนนี้ก็เครียด จนคิดว่าจิตแพทย์ต้องเข้าแล้วหรือเปล่า คือมันไม่สบายใจเลย เอมจองทริปดำน้ำที่อยากไปมากๆ แต่แพทย์ไม่ให้ไปเพราะสะเก็ดหลุดมาแล้วหน้าด่างเลย ถ้าโดนแดดมันจะดำ จะด่างนาน เอมก็ต้องทิ้งทริปนี้ไปเลย 

ก็ได้แต่หวังว่าเรื่องจะจบเร็วนะคะ อยากทำงาน แต่ถ้าทางคลินิกยังเป็นแบบนี้ เรียกร้องทั้งๆ ที่ตัวเองต้องชดใช้ สงสัยต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมแล้ว เราดีด้วย แต่ทำอย่างนี้กับเรามันไม่ดีเลย

เลยอยากจะเตือนทุกคนนะคะ เลือกคลินิกดีดี เอาที่แพทย์เป็นคนรักษา อย่าให้ใครต้องเจอแบบนี้อีก ถ้าต้องเรื่องใหญ่ ก็ขอเป็นตัวแทนให้คนที่โดนแบบนี้แต่ไม่มีกำลังสู้ด้วยเลยละกันค่ะ จะสู้ให้

อย่างไรก็ตาม คุณเอม เจ้าของโพสต์ได้เปิดใจกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" อัปเดตอาการเพิ่มเติมว่า ตอนนี้หน้าดีขึ้น เอมรักษาทุกสัปดาห์ คลินิกมีติดต่อมาค่ะ แต่เอมให้ทนายคุยกับทนาย ตามที่เอมโพสต์ คือคลินิกเขาบอกจะรับผิดชอบนะคะ แต่ในจำนวนที่ทางเอมมองว่าไม่สมเหตุสมผลและล่าช้าค่ะ เลยต้องเจรจากัน จิตใจเอมสบายใจขึ้นค่ะ ด้วยหน้าที่ดีขึ้นมาก และไม่ต้องคุยเอง

ทั้งนี้ คุณเอมยังฝากถึงคลินิก และเตือนภัยสังคมอีกด้วยว่า "ให้ศึกษาข้อมูล หัตถการต่างๆ ก่อนตัดสินใจ สอบถามคลินิกก่อนซื้อบริการ ว่าใครเป็นผู้ทำ หลายคนเข้าใจผิดเรื่องค่ารักษา สามหมื่นกว่าบาทในโพสต์ เอมฝากแจ้งว่า สามหมื่นนี่คือที่เอมไปรักษาเองหลังเกิดเหตุนะคะ ไม่ใช่ค่าคอร์สจากคลินิกต้นเหตุ".

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Issada Aisiri