เพจดังแนะนำผู้ปกครอง ให้ลูกกินยาลดไข้ก่อนมาหาหมอได้ หากมีอาการไม่สบาย เพื่อลดความเสี่ยงที่เด็กจะชัก จากไข้ที่ขึ้นสูง

วันที่ 30 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้แชร์คำแนะนำจากผู้ติดตามเพจ โดยระบุข้อความว่า เนื่องด้วยช่วงนี้เชื้อโรคเยอะ เด็กๆ เล็กเด็กโต ติดเชื้อกันเยอะมาก ทั้งไข้หวัดใหญ่ ไข้ rsv  โควิดก็ยังมีบ้าง มามีไข้เลือดออกอีก แต่ละโรคก็ต้องมีไข้สูงๆ ทั้งนั้น

ลูกที่บ้านเรียน ม.4 ก็ป่วยตัวร้อนไข้สูงหลายวัน แม่ก็ให้กินยาพาราทุก 4-6 ชม. ติดกัน 3 วันไข้ไม่ลด วันที่ 4 ไข้ก็ไม่ลด เริ่มเจ็บคอ ไอเสมหะ เลยพาไปโรงพยาบาล ก็ให้กินยาลดไข้ก่อนไป ประมาณ 2 ชม. ก่อนถึงโรงพยาบาล ถึงโรงบาลไข้ก็ยัง 38 ต่ำๆ วัดความดัน การเต้นของหัวใจปาไป 121  โดนส่งเข้าห้องฉุกเฉิน

ถึงหน้าห้องฉุกเฉินพยาบาล ก็ซักประวัติอีก ว่ากินยาลดไข้ล่าสุดเมื่อไหร่ ก็เลยบอกเพิ่งกินมาเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อน แต่ไข้ก็ยังไม่ลด แต่เขาก็ให้รอดูอาการสักพัก ว่าหัวใจกลับมาเต้นปกติไหมเพื่อความปลอดภัย

พยาบาลบอกดีนะที่แม่ยังให้ลูกทานยาลดไข้ ทุก 4 ชั่วโมง เด็กๆ ที่กองกันเต็มจนล้นห้องฉุกเฉิน เพราะไข้สูงหัวใจเต้นเร็ว บางคนจนปากแดงแก้มแดง เพราะผู้ปกครองไม่ให้น้องทานยาลดไข้ ก่อนมาโรงพยาบาล กลัวว่ามาโรงพยาบาลแล้วไข้จะลด จนเด็กเล็กๆ ชัก เพราะไข้สูง 

ไม่รู้หรอกว่ามันจำเป็นไหมกับการที่ช่วยบอกความรู้ ให้พ่อๆ แม่ๆ ที่คิดว่าถ้าให้ยาลดไข้ลูกไปแล้วหมอจะตรวจหาโรคไม่เจอ คิดผิด คิดใหม่ หน่อยจ้า

สมัยรับราชการก็เจอบ่อยนะ แบบเด็กเป็นไข้สูง พ่อแม่พามาโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ให้กินยาลดไข้ หรือเช็ดตัวก่อนพามาโรงพยาบาล พอถามว่าทำไมไม่ให้กิน พ่อแม่ก็ตอบว่า กลัวว่ากินยาลดไข้ แล้วหมอจะตรวจหาโรคไม่เจอ

...

จริงๆ แล้ว กินยาลดไข้ได้นะครับ ไม่ต้องกังวลว่าจะตรวจไม่เจอ ไม่เกี่ยวกัน และการกินยาลดไข้ จะช่วยให้เด็กสบายตัวขึ้น ลดความเสี่ยง ที่เด็กเล็กจะชัก เพราะไข้สูงได้ด้วย และเช็ดตัวร่วมด้วยก็จะช่วยให้ไข้ลดดียิ่งขึ้น

แต่ยาลดไข้แนะนำพวก พาราเซตามอล ไม่แนะนำพวกยาลดไข้แรงๆ พวกกลุ่ม NDAIS เช่น บรูเฟ่น เพราะบ้านเราไข้เลือดออกเยอะมาก ถ้าเป็นไข้เลือดออก กินยาลดไข้กลุ่มนี้ จะแย่ลงได้ อันตราย.

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict