"หมอเวร" อธิบายชัดๆ เมื่อคาดการณ์ว่า "คุณจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกกี่เดือน" คำนวณจากอะไร พร้อมชี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยวัดจากสถิติเท่านั้น ในความเป็นจริงอาจแตกต่างกันได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
เฟซบุ๊ก หมอเวร โพสต์ข้อความโดยระบุว่า "ที่หมอชอบคาดการณ์ว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกกี่เดือน เค้าคำนวณจากอะไร?" พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า "จากที่เคยคุยกับอาจารย์ด้านมะเร็งหลายๆ ท่านมา การประเมินตรงนี้ ส่วนใหญ่หมอเค้าจะดูจากการแพร่กระจายของโรคไปยังอวัยวะสำคัญต่างๆ และการตอบสนองต่อการรักษา แล้วเอาไปเทียบกับสถิติการมีชีวิตรอดของผู้ป่วยมะเร็งชนิดนั้นในระยะต่างๆ
พูดง่ายๆ ก็คือดูจากระยะอาการของโรค เทียบกับสถิติของคนที่เคยเป็นโรคนี้ ในระยะอาการใกล้เคียงกันนั่นแหละ แล้วเอามาบอกอีกทีว่าส่วนใหญ่โอกาสรอดจะอยู่ได้กี่เดือน กี่ปี หรือมีโอกาสหายดีประมาณเท่าไหร่บ้าง แต่อย่างที่บอกว่าตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยวัดจากสถิติเท่านั้น ในความเป็นจริงมันเลยอาจแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการตอบสนองต่อการรักษา การใช้ชีวิต การดูแลร่างกาย รวมถึงสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยเอง บางคนไม่ดูแลตัวเองสภาพจิตใจแย่ ก็อาจอยู่ได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้ แต่บางคนออกกำลังกาย เลือกกินอาหารที่ดี สุขภาพจิตดี ก็อาจหายขาดหรืออยู่ต่อไปได้อีกหลายสิบปีจนสิ้นอายุขัยด้วยโรคอื่นก็เป็นไปได้ทั้งนั้น"
ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น อาทิ สภาพจิตใจสำคัญจริงค่ะ ส่วนตัวหมอบอกอยู่ได้ 6 เดือน ตอนนี้ 3 ปีแล้ว, ดีค่ะ อธิบายพูดกับคนไข้ตรงๆ คนไข้ได้มีโอกาสเตรียมตัวในเรื่องส่วนตัว ดีกว่าที่จะเลี่ยงบอก ชอบหมอพูดตรงๆ มากกว่า, ถ้าเรามีสิ่งแวดล้อมดี แล้วรอบคอบในการใช้ชีวิตคงยืนยาว
...
ขณะที่ เฟซบุ๊ก โรงพยาบาลรามคำแหง Ramkhamhaeng Hospital ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์แสดงความเห็นโดยระบุว่า "ขอแทรกเกี่ยวกับเรื่องโรคมะเร็งนิดนึงนะครับ ตามสถิติการรักษาแล้ว มะเร็งเป็นโรคที่ต้องแข่งกับเวลามากๆ เพราะถ้าเจอมะเร็งไม่ว่าบริเวณไหน ส่วนใหญ่หากเจอตั้งแต่ระยะแรกๆ โอกาสกลับมาหายดีเป็นปกติจะสูงมากกว่าตอนเจอระยะหลังๆ หลายเท่ามาก แถมมะเร็งยิ่งเจอระยะหลังๆ ค่ารักษาหมดกันทีเป็นล้านเลย ถ้าเจอแต่เนิ่นๆ ค่ารักษาก็จะถูกลงกว่านั้นหลายเท่าตัวเลย ฉะนั้นหากอยากลดความเสี่ยงในการรักษาโรคมะเร็ง ก็ควรจะตรวจคัดกรอง กันตั้งแต่เนิ่นๆ ตามวัยหรืออายุตามลำดับ โรคมะเร็งยิ่งเจอไวเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มโอกาสหายมากขึ้นเท่านั้นครับ".
ขอบคุณเฟซบุ๊ก หมอเวร, โรงพยาบาลรามคำแหง Ramkhamhaeng Hospital