แฮชแท็ก #วิโรจน์ พุ่งติดเทรนด์ต่อเนื่อง หลัง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉสารพัดส่วย ล่าสุดแนะวิธีแก้ไขอย่างยั่งยืน รัฐได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย
วันที่ 31 พ.ค. 66 จากกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉเรื่องปัญหาส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก โดยใช้คำว่า Easy Pass เพื่อให้รถบรรทุกสามารถวิ่งได้บนโครงข่ายถนนทั่วประเทศ มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านต่อปี โดยหลักๆ พุ่งเป้าไปที่ตำรวจทางหลวง จน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งตำรวจทางหลวงและจเรตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน ขณะที่กระทรวงคมนาคมสั่งตรวจสอบเช่นกัน พร้อมกำชับให้ด่านตรวจกรมทางหลวง 97 แห่งทั่วประเทศเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ล่าสุด ผบ.ตร.ออกมายอมรับแล้วว่า พบมีส่วยสติกเกอร์จริง สั่ง จตช. ตรวจสอบ คาด 15 วันรู้ผล พร้อมตั้งชุดเฉพาะกิจ บช.ก. ตรวจสอบข้อมูลคู่ขนาน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวิโรจน์ ยังคงเดินหน้าออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ "ส่วย" อย่างต่อเนื่อง ผ่านทางเฟซบุ๊ก "Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" โดยอ้างว่า หลังจากที่ออกมาเผยเรื่อง ส่วยทางหลวง หรือ ส่วยสติกเกอร์ ตอนนี้มีไลน์ที่หลุดออกมา ทำให้เข้าใจได้ว่า มีการพยายามปรับตัว โดยคิดที่จะย้ายจุดติดสติกเกอร์จากด้านนอก มาติดด้านในตัวรถ ย้ายจากกระจกหน้า มาติดที่ "บังแดด" แต่การทำแบบนี้ ยิ่งเป็นการส่อพิรุธ
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ยังอ้างด้วยว่า นอกจากส่วยทางหลวง แล้วก็ยังมีรถตู้รับส่งนักเรียน ลอตเตอรี่ ซึ่งปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงกว่าราคาที่กำหนด ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นปัญหามาจากการจัดสรรสลากที่ไม่เป็นธรรม คนขายตัวจริงกลับไม่ได้รับโควต้าสลาก ต้องไปซื้อสลากต่อมาจากเหล่า "เสือนอนกิน" พอรับสลากมาแพง เขาก็ต้องขายแพงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าขายใบละ 80 บาท ก็ขาดทุนแน่นอน
...
และล่าสุด นายวิโรจน์ ได้เสนอแนะเกี่ยวกับ Weight In Motion (WIM) หรือการตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกขณะรถวิ่ง หากพบว่ารถบรรทุกบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด เทคโนโลยีที่น่าจะสามารถแก้ปัญหา ส่วยทางหลวง ได้อย่างยั่งยืน ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม
ซึ่งตัวกฎหมายเองก็อาจจะต้องทบทวนให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมสากล และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เช่น อาจจะพิจารณาใช้น้ำหนักเฉลี่ยต่อล้อมาเป็นเกณฑ์ แทนการใช้น้ำหนักรวม หรือถ้าจำเป็นต้องใช้เกณฑ์น้ำหนักรวม ก็ต้องแบ่งเกณฑ์ตามประเภทของรถบรรทุก โดยพิจารณาตามจำนวนล้อ เป็นต้น เพราะปัจจัยที่ทำให้ถนนชำรุด คือ น้ำหนักเฉลี่ยที่ถ่ายลงมาที่ล้อ แล้วถ่ายลงสู่พื้นถนน ไม่ใช่น้ำหนักรวม
นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันก็คือ ระบบการออกใบสั่งทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถส่งใบสั่งไปยังผู้ประกอบการ เจ้าของรถบรรทุก ที่บรรทุกน้ำหนักเกินโดยทันที การชำระค่าปรับ ก็ให้โอนชำระค่าปรับผ่านระบบธนาคารเป็นหลัก
ระบบที่เชื่อมโยงบูรณาการแบบนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีต่อทุกฝ่าย ค่าปรับก็เข้ารัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่รั่วไหล และปัญหานี้ก็จะแก้ไขได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ นายวิโรจน์ ออกมาแฉปัญหาส่วยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้แฮชแท็ก #วิโรจน์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง.
ที่มาจาก เฟซบุ๊กเพจ Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร