ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการ ชี้แจง กรณีดราม่า "ตลาดท้ายบ้าน" สร้างกว่า 768 ล้าน จัดเปิดยิ่งใหญ่ แต่ผ่านมาแค่ 2 เดือน กลับดูเหมือนร้าง ชี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

จากกรณีโลกโซเชียล มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตลาดเชิงท่องเที่ยว ศูนย์กลางการจำหน่ายผลิตการประมง และผลผลิตทางการเกษตร จ.สมุทรปราการ ซึ่งตั้งอยู่ถนนท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สร้างจากงบฯ ก่อสร้างระหว่างเทศบาลนครสมุทรปราการ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กว่า 768,543,453 ล้านบาท ว่าตลาดดังกล่าวสร้างเสร็จมานานหลายเดือน และได้มีพิธีเปิดใหญ่โตไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 2 เดือน ตลาดเนื้อที่กว่า 24 ไร่ กลับมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีผู้เช่า ปล่อยให้เป็นตลาดร้าง สิ้นเปลืองงบประมาณ 

ความคืบหน้า วันที่ 8 พ.ค. 66 นายสิทธิชัย เกษรสิทธิ์ ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการ ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงปัญหาดังกล่าวว่า สำหรับตลาดสร้างเสร็จแล้ว และได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจรับตามขั้นตอน สาเหตุที่ยังไม่เปิด เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการจัดหาประโยชน์ ซึ่งปัญหาที่ล่าช้าที่สุดคือ จะทำอย่างไรให้ชาวสมุทรปราการได้ประโยชน์มากที่สุด ถ้าเราเปิดให้มีการประมูลทั่วไปเลย และปล่อยให้นายทุนเข้ามาประมูลทั้งหมดกว่า 400 ยูนิต ตนเชื่อว่าชาวบ้านที่แท้จริงจะไม่ได้เข้ามาใช้พื้นที่ หรือหากเข้ามาใช้พื้นที่ ก็ต้องจ่ายค่าเช่าต่อจากนายทุนในราคาค่อนข้างสูง

นโยบายของผู้บริหารได้ฝากให้ดูความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีพื้นที่ขาย และบางส่วนต้องกันไว้ให้กับเยาวชนที่จะเข้ามาเรียนรู้ เพราะว่าตลาดแห่งนี้เป็นตลาดส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป้าหมายคือ ทั้งคนไทย ต่างชาติ และชาวสมุทรปราการ รวมถึงทาง อบจ.เอง ได้ทำบัญทึกร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ในการเข้ามามีส่วนร่วมสอนภาษาให้กับชาวบ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

...



อย่างไรก็ตาม วันนี้ในเรื่องอัตราค่าเช่า ทางเทศบาลสามารถทำได้ แต่อย่างที่ได้ชี้แจงคือ รอกันพื้นที่ให้กับประชาชน และขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน พ่อแม่พี่น้องชาวสมุทรปราการที่มีสินค้าโอทอป สินค้าผลิตในชุมชน ถ้ามีความประสงค์จะนำสินค้ามาจำหน่ายที่นี่ ให้แจ้งผ่านช่องทางของเทศบาลนครได้ทุกช่องทาง เนื่องจากขณะนี้มีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนได้แจ้งความประสงค์เข้ามาบ้างแล้ว แต่ขณะนี้เทศบาลต้องรอว่า จำนวนพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนสมุทรปราการจริงๆ มีกี่ราย เพื่อเราจะได้กันพื้นที่ไว้ให้ ถ้าเรากำหนดพื้นที่ครบได้แล้ว ที่เหลือก็จะเป็นพื้นที่สำหรับเปิดการประมูล ซึ่งการเปิดประมูลก็ไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยาก เวลามีกำหนดอยู่แล้ว

นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดประมูลผู้ที่เข้ามาบริหารตลาด เราต้องการผู้ที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินการที่จะทำให้ตลาดมีชื่อเสียง เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่ให้ความสำคัญกับคนสมุทรปราการ คนไทยจากพื้นที่อื่นๆ ไปจนถึงชาวต่างชาติ นี่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด เราต้องเปิดให้บริการ แล้วมีงบไว้พัฒนาพื้นที่ ส่วนคนค้าขายในตลาดต้องมีกำไร ที่สำคัญประชาชนยังได้ซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่า ไม่รู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ ต้องไม่ใช่โครงการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

กลับกันจะเป็นโครงการที่ส่วนรวมต้องได้ประโยชน์ นี่คือเป้าหมายของเรา นอกจากนั้น ยังมีรายละเอียดในการเช่าพื้นที่ จะต้องมีขั้นตอนและเรื่องอื่นที่ต้องคำนึงถึงอีกมาก เช่น การวางเงิน ทำสัญญา การตกแต่งเพิ่มเติม การประกันร้านค้า เป็นต้น ดังนั้น ผู้ที่จะมาบริหารตลาดต้องมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ซึ่งจะเข้ามาผ่านวิธีการที่โปร่งใส ถูกต้อง ขณะนี้เราได้นำข้อมูลและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อหาผู้จัดการตลาด ผ่านวิธีการประมูลแล้ว นี่ไม่ใช่กระบวนการที่ล่าช้า แต่เป็นความรอบคอบ เพราะอย่าลืมว่า หากเราเร่งกำหนดขอบเขตไม่ละเอียดพอ แล้วได้ผู้ชนะประมูลเข้ามาจัดการตลาดโดยไร้ความสามารถ จะส่งผลเสียกับผู้ค้า ประชาชน วัตถุประสงค์ที่วางไว้ไม่มีวันสำเร็จ งบหลายร้อยล้านบาทที่ลงทุนไป จะได้ผลลัพธ์กลับมาแล้วไม่คุ้มค่า และการจะแก้ไขเรื่องต่างๆ หลังจากนั้นจะสายเกินไป



ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าเรา เทศบาลสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องการให้ประชาชนได้สิ่งที่ดีที่สุด ขอรับรองว่า เมื่อตลาดท้ายบ้านเปิดให้บริการแล้ว ที่นี่จะเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญในจังหวัดสมุทรปราการ ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมหาศาล และยังเป็นความภาคภูมิใจของชาวปากน้ำ เป็นตลาดที่ดำเนินการอย่างมั่นคงต่อไป.