สาวแชร์ไอเดีย คุณพ่อวัยเกษียณ สวมบทบาท แมคกายเวอร์ ประดิษฐ์ตู้ไปรษณีย์ ทำจากไมโครเวฟ บอกเห็นครั้งแรก ถึงกับร้องกร๊าก!!!

วันที่ 5 พ.ค. 66 กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Warinya Jip Panchaipoom" ได้โพสต์ภาพ ตู้ไปรษณีย์ ที่ทำจากไมโครเวฟ ลงในกลุ่ม "งานบ้านที่รัก" พร้อมข้อความระบุว่า "เซอร์ไพรส์!! จอดหน้าบ้าน ถึงกับต้องร้อง กร๊ากกกกับแม่ กับโปรเจค DIY ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน ของคูมพ่อของฉันเอง

มีพ่อเป็น MacGyver อะเนอะ ธรรมดาไม่ได้ ใครจะอุ่นอาหาร เอ้ย จะฝากพัสดุ เชิญเปิดฝา แล้วบิดสุดที่ 850 วัตต์ได้เลยเจ้า 

แอบย้ายตำแหน่งของเค้านิดนึงทีหลัง แต่ไม่เอาออกเพราะพ่ออุตส่าห์ตั้งใจแกะเครื่องในเก่าออก และพี่ๆไรเดอร์ก็ยิ้มได้ตอนมาส่งอาหาร ขออนุญาตแชร์ไว้เผื่อเป็นไอเดียของบ้านไหนที่ชอบดีไซน์แปลกๆเหมือนคูมพ่อวัยเกษียณแบบบ้านเราค่า"

ทั้งนี้ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก อาทิ ไรเดอร์: ฮัลโหลวว มีพัสดุมาส่งค้าบ เจ้าของบ้าน : โอเครครับ ใส่ไว้ในไมโครเวฟ, ถ้าเป็นที่บ้าน คงต้องใช้เครื่องซักผ้าฝาบนอะครับ, ถ้าเป็นหมู่บ้านเปิด เสร็จซาเล้งขายของเก่าแต่นอน, โห นี่เสียดายอันที่ยกไปให้ร้านซ่อมเลยค่ะ ยกให้เค้าฟรีๆ, น่ารักดีออกค่ะ ประหยัด ใช้งานแบบคุ้มๆ ฯลฯ ขณะที่บางคนก็แชร์ภาพไมโครเวฟ ที่ทำเป็นตู้รับพัสดุ หน้าบ้านของตัวเองเช่นกัน

ทั้งนี้ เจ้าของเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นลูกสาว เปิดเผยว่า คุณพ่ออายุ 62 ปี ก่อนหน้านี้เบื่องานประจำเลยเออร์ลี่ฯ ออกมาก่อน 1 ปี ปกติก็ชอบประดิษฐ์ของเล็กๆ น้อยๆ ใช้ เพราะเป็นคนที่เสียดาย ไม่อยากทิ้งของที่เขาคิดว่าสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น เอาตู้เย็นเก่า มาทำแปลงปลูกผักเล็กๆ หรือ ชั้นวางรองเท้า แม้กระทั่งไม้กวาดที่เหลือแต่ด้าม ก็ไม่ยอมทิ้ง นำขวดพลาสติกมาแทนดอกหญ้า ใช้กวาดเศษใบไม้ แต่อันนี้ถือว่าดี เพราะทนทาน

...

ทีนี้พอเราทำบ้านอีกหลังขึ้นมา เวลาไปรษณีย์ หรือพัสดุมาส่ง ไม่มีที่วาง เราก็มักจะให้คนที่มาส่งโยนข้ามรั้วเข้ามาเลย ซึ่งเราตั้งใจจะซื้อตู้ไปรษณีย์หลายครั้ง แต่ถ้าจะซื้อขนาดใหญ่หน่อย ก็ราคาเป็นพัน คุณพ่อก็คงเห็นว่าไม่นิด บวกกับคุณพ่อไปเจอไมโครเวฟเก่าของน้า จึงเกิดเป็นโปรเจกต์แมคกายเวอร์อย่างที่เห็น ซึ่งเราก็หัวเราะผลงานของคุณพ่อประจำ แต่ก็ใช้ เพราะเขาตั้งใจทำ ซึ่งคุณพ่อเองก็แอบชื่นใจ ที่สิ่งที่เขาทำมันมีคุณค่า และยังเป็นคนวัยเกษียณที่มีคุณค่าต่อคนอื่นๆ ด้วย.

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก Warinya Jip Panchaipoom