ตำรวจสืบนครบาล-สืบ สน.โคกคราม ตามจับหนุ่มแสบแปลงร่างเป็นเซเลบหาเหยื่อหญิงสาวขับรถเก๋งในแอปพลิเคชันหาคู่ ก่อนออกอุบายพาไปร่วมหลับนอนในโรงแรม พอสบโอกาสกลับลักรถเก๋งไปขายส่งออกเขมร ผู้ต้องหารับสารภาพทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 61 แถมอ้างป่วยเป็นโรคร้ายไม่เคยใช้ถุงยางอนามัย รอผลตรวจจากโรงพยาบาล ส่วนเหยื่อมีหลายระดับ 1 ในนั้นเป็นลูกสาวตลกชื่อดัง อีกคดี ตำรวจ สน.ประชาชื่น รวบจิ้งจอกสังคมหลอกเหยื่อสาว “พั้งก์” มาเที่ยวตามสถานบันเทิง ก่อนฉวยโอกาสลักทรัพย์หนีไปขาย

ตำรวจรวบหนุ่มมารสังคมหลอกเหยื่อหญิงสาวลักรถเก๋งและทรัพย์สิน 2 คดีซ้อน คดีแรกเปิดเผยเมื่อวันที่ 27 เม.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะ หน.ชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ ทองแพ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. นำกำลังพร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม จับกุมนายภีรพัฒน์ หรืออุ้ม หรืออั้ม หรือพอช หรือพัด บุญมี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/2 หมู่ 3 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ท้องที่ สน.โคกคราม

สืบเนื่องจากมีหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง แจ้งกับตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ของเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB ว่าถูกชายหนุ่มอ้างเป็นเซเลบรายหนึ่งที่พบเจอกันในแอปพลิเคชันหาคู่ ออกอุบายนัดพบกันที่โรงแรม เมื่อพักค้างแรมแล้วคนร้ายหายตัวไปพร้อมกุญแจและรถยนต์ของหญิงผู้เสียหาย พบคนร้ายรายนี้เคยถูกออกหมายจับหลายคดี หลังรับแจ้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของสืบ นครบาลร่วมกับชุดสืบสวน สน.โคกคราม ตรวจสอบแผนประทุษกรรมที่เกิดขึ้น พบคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน แฝงตัวอยู่ในแอปพลิเคชันหาคู่ “ทินเดอร์” “โอมิ” สร้างโปรไฟล์เป็นเซเลบ หนุ่มหล่อ รวย ถ่ายภาพคู่รถหรูดึงดูดหญิงสาวให้เกิดความสนใจ เลือกเหยื่อที่มีรถเก๋ง ก่อนทำการนัดพบหรือรู้กันในหมู่วัยรุ่นว่า “การนัดยิ้ม” ทำทีนัดหมายให้เหยื่อขับรถมารับที่สนามบิน อ้างเดินทางมาจากจ.เชียงใหม่ แกล้งเตร็ดเตร่ลากกระเป๋าเดินทางอยู่ในสนามบิน จากนั้นคนร้ายจะพาไปที่โรงแรมย่านเรียบทางด่วนรามอินทราออกอุบายขอยืมรถเก๋งตระเวนขับไปให้พ่อค้ารถเถื่อนดูสภาพตีราคารถ ก่อนขับย้อนกลับไปอยู่กับเหยื่อที่โรงแรม กระทั่งสบโอกาสขโมยรถเก๋งของเหยื่อไปขาย

...

หลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังสืบสวนติดตามหาเบาะแส เบื้องต้นพบผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับติดตัวอยู่ 7 หมายจับใน จ.เชียงใหม่ จ.นครศรีธรรมราช จ.ปทุมธานี จ.นครราชสีมา และ กทม. หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ อ.เมืองลพบุรี ต่อมาตำรวจแปลงกายเป็นสาวสวยฐานะดีเข้าไปท่องในแอปพลิเคชันหาคู่กระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ที่หน้าร้าน Mr.DIY ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 61 แรกเริ่มมีลูกพี่เป็นเครือข่ายส่งรถยนต์ข้ามประเทศมาสอนให้นัดมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อและขโมยรถมา ไม่ต้องสนใจรูปร่างหน้าตาอายุ ให้ดูเพียงแต่รุ่นรถของเหล่าหญิงสาวที่จะไปนัดมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ให้ถือว่าเป็นการทำงานไม่ใช่การหาความสุขสำราญ ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง คนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะนี้มีอีกหลายรายเป็นเครือข่ายไม่ได้มีตนเพียงคนเดียว ส่วนรถที่ได้มาถ้าเป็นรถใหญ่จะถูกส่งไปประเทศกัมพูชา ส่วนรถเล็กนั้นส่วนใหญ่ผู้รับซื้อจะนำไปเก็บที่โกดังเพื่อรอสวมซากรถ

มีรายงานว่า นายภีรพัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ไม่เคยสวมถุงยางอนามัยป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อแต่อย่างใด ซ้ำยังอ้างว่ามีอาการป่วยอยู่ระหว่างรอผลการตรวจโรคร้ายกับทางโรงพยาบาล เบื้องต้นมีเหยื่อที่เป็นหญิงสาวไม่ต่ำกว่า 8 คน 1 ในนั้นเป็นบุตรสาวดาราตลกคนดัง

อีกคดีเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.วิทวัส แสงเพิ่ม รอง ผกก.สส.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.วุฒิกร มีแก้ว สว.สส.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ประจบ ศรีแสง สว.สส.สน.ประชาชื่น นำกำลังจับกุมนายมาโนช แสงเสือ อายุ 21 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ฐานลักทรัพย์ โดยจับกุมได้ที่หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ว่าถูกชายหนุ่มที่รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ชื่อ “ทินเดอร์” มาตีสนิททำความรู้จักก่อนนัดไปรับประทานอาหารและเที่ยวดื่มกิน เมื่อเหยื่อเผลอเข้าห้องน้ำคนร้ายรายนี้จะลักทรัพย์สิน เงินสด โทรศัพท์ โน้ตบุ๊กหลบหนี

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ มักเลือกเหยื่อแต่งตัวสไตล์พั้งก์ เคยก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.เชียงใหม่ จ.ชลบุรี และ กทม. ได้ทรัพย์สินมาขาย 4 ครั้ง อีก 3 ครั้งผู้เสียหายจับได้จึงต้องชดใช้เงินให้ ทรัพย์สินที่ได้มาจะนำไปขายต่อนำเงินมาใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง ก่อนหน้านี้เคยเปิดเฟซบุ๊กหลอกออมเงิน ออกอุบายว่าถ้าออมเท่าไหร่จะได้คืน 2 เท่า มีเหยื่อหลงเชื่อกว่า 100 คนก่อนจะปิดเพจหนี เพราะได้เงินน้อยไม่คุ้ม