เปิดปากกับภาคภูมิ ปมผู้เสียหายร้องเจอมิจฉาชีพหลอกจองบ้านพักพูลวิลล่าทิพย์ พอไปถึงกลับไม่มีชื่อจอง แถมยังติดต่อไม่ได้ ทางเจ้าของเผยเสื่อมเสียชื่อเสียง ทนายแนะวิธีแก้ปัญหา

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับคุณโจ้ ผู้เสียหาย เจ้าของบ้านพักพูลวิลล่า และทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ในประเด็นผู้เสียหายร้องถูกมิจฉาชีพหลอกจองบ้านพักพูลวิลล่าทิพย์ ไปถึงกลับไม่มีชื่อจอง โอดเสียเงินแต่ไร้ที่นอน

คุณโจ้ ผู้เสียหาย เผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วางแผนจองที่พักในพัทยาช่วง 14-15 เม.ย. ซึ่งชื่อเพจมิจฉาชีพก็ทักมาไวมาก หลังจากที่เราไปทิ้งข้อความไว้หลายเพจ ซึ่งเขาก็ส่งรายละเอียดมาให้ดู ซึ่งเพจก็ดูปกติมาก พิมพ์ข้อความไปก็มีข้อความเด้งอัตโนมัติมาเลย ยอดคนติดตามหมื่นกว่า รีวิวก็มีหน้าม้าเยอะมาก

...

ซึ่งราคาที่พักนั้นคิดราคา 9,900 และค่าประกันอีก 5,000 พร้อมกับส่งใบจองมาให้ ก่อนจะขอมัดจำครึ่งหนึ่ง เราเลยโอนยอดไป 7,450 ระหว่างนี้ก็พิมพ์ตอบโต้กัน เขาใส่ใจตอบลูกค้าดีมาก ส่วนเบอร์บัญชีที่โอนไปก็เป็นชื่อบุคคล โอนประมาณวันที่ 17 มีนาคม เพราะหลายที่ที่ทักไปส่วนใหญ่ก็บอกว่าเต็ม

ด้านคุณปุ้ย และคุณเฟิร์ส ตัวแทนเจ้าของบ้านพักพูลวิลล่า กล่าวว่า การจองห้องในช่วงสงกรานต์ ต้องบอกว่าจองข้ามปีกันได้เลย ส่วนที่พี่โจ้จองนั้นราคาเป็นไปไม่ได้เลย เพราะบ้านขนาดนั้นจะอยู่คืนละ 13,900-15,900

คุณโจ้ ผู้เสียหาย เล่าต่อว่า ระหว่างทางเราก็สอบถาม เขาก็ตอบตลอด และวันที่ 14 เมษายน ตอนเช้าเราก็จะโอนส่วนที่เหลือไป ปรากฏว่าบัญชีนั้นใช่ไม่ได้ เลยทักไปถามว่าทำไมถึงใช้ไม่ได้ เขาบอกว่าเปลี่ยนบัญชีใหม่

ตนจึงบอกว่าเดี๋ยวจะโอนตอนไปถึงที่พัก ซึ่งเขาก็ไม่แจ้งยอดมา พอไปถึงพัทยาตนเองไปถึงคนแรกในกลุ่ม และโทร.หาคนชื่อป้าแมว ที่ทางเพจให้บอร์มา เพื่อติดต่อก่อนเข้าห้องพัก แต่พอโทร.ไปเขาตัดสาย ซึ่งคราวหลังได้มาสอบผู้เสียหายคนอื่นก็บอกว่าได้เบอร์เดียวกัน แต่ใช้คนละชื่อ เมื่อได้เจอกับแม่บ้านที่พัก เขาก็บอกว่าน่าจะไม่ใช่ที่นี่ เพราะมีคนจองมาแล้ว 5 คืน พร้อมกับติดต่อหาเจ้าของบ้านตัวจริงให้ พอได้พูดคุยกัน เขาก็แจ้งมาว่าตนเองนั้นโดนหลอกแล้ว เพราะว่าทางเพจเจ้าของบ้านตัวจริงเคยลงแจ้งเตือนให้ระวังมิจฉาชีพไว้

น.ส.เอ ผู้เสียหายในการสมัครงาน เผยว่า ในช่วงที่ออกจากงานเก่า มีการประกาศรับสมัครพนักงานคอนเฟิร์มออเดอร์ในเฟซบุ๊ก ทำงานแบบ WFH จึงสมัครไป แต่ทางนั้นเขาไม่คุยรายละเอียดแบบการโทร.เบอร์ ให้โทรคุยกันทางไลน์เท่านั้น ทราบชื่อคือแนน เสียงเหมือนสาวประเภทสอง พร้อมกับแจ้งลักษณะงานว่าจะมีลูกค้าจองที่พักและโอนเงินมา ตนเองต้องโทร.คอนเฟิร์มบ้านกับลูกค้า และคอนเฟิร์มห้อง

จากนั้นเขาก็ขอข้อมูลเอกสารบัตรประชาชนและหน้าบัญชีไป โดยอ้างว่าจะเอาไปไว้ตอนจ่ายค่าแรง แต่ในวันที่ทำงานวันแรก 31 มีเงินโอนเข้าบัญชียอดแรกประมาณ 4,000 จึงโทร.ไปสอบถามแนนก็บอกว่าให้ตนโอนเงินไปคืนแนน 3,700 บาท ส่วนอีก 300 บอกเป็นค่าแรงที่ตนคอนเฟิร์มออเดอร์ และให้ตนโทร.ไปแจ้งรายละเอียดกับลูกค้าว่ารับเงินแล้ว พร้อมคอนเฟิร์มห้องให้ ซึ่งที่ผ่านมามียอดเข้าบัญชีตนประมาณ 10 ราย ส่วยยอดใหญ่ที่เข้ามาคือ 12,500 ตนเลยเริ่มสงสัยว่ามันแปลกๆ

ต่อมาลูกค้าผู้เสียหายก็โทร.มาบอกว่าเพจที่เราทำมันโกง ตนจึงแจ้งอายัดบัญชีทันทีในวันที่ 2 เม.ย. ในวันต่อมาตำรวจก็โทร.มาหาตน จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงกับตำรวจ พร้อมกับเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจ ในตอนนี้ติดต่อผู้เสียหาย 5 ราย และก็ลงบันทึกประจำวันไว้

ทนายรณณรงค์ เผยว่า กรณีของ น.ส.เอ นี่เป็นการสมรู้ร่วมคิด เพราะเงินเข้าบัญชีตัวเองทั้งหมด จะอ้างว่าไม่รู้ก็ไม่ได้ เข้าองค์ประกอบเรื่องความผิดฉ้อโกง ดังนั้นการคืนเงินจะดีที่สุด ถ้ามีเงินคืน ก็ไปหาเงินคืน แต่ถ้าไม่คืนก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาลว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้ามีการหักบางส่วนเอาไว้มันก็สู้ยาก เอาผิดกับทางมิจฉาชีพที่หลอกตั้งเพจปลอมได้ แต่ทางผู้เสียหายที่ดำเนินคดีก็ต้องจัดการก่อน พร้อมกับแนะนำให้มาที่กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินคดีกับเพจปลอมที่ตำรวจไซเบอร์

น.ส.เอ จึงกล่าวว่า ที่ท่านทนายชี้แจงมาก็ชัดเจน คงต้องเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะไม่มีเงินก้อนไปผู้เสียหายทุกราย ซึ่งตนเองไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โคกขาม ร้อยเวรก็ให้คำแนะนำมาแล้ว

ต่อมา ทนายรณณรงค์ เผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ผู้เสียหายทุกคนต้องไปแจ้งความในโรงพักที่ตนเองโดนโกงมัดจำไป ตั้งแต่บัญชีปลายทาง รวมไปถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้โดนโกง ให้ขอเบอร์โทร.ทางรีสอร์ตเพื่อโทร.คุยกับคนที่กำลังแชตคุยกับเราด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นตัวบุคคลจริง

ขณะที่ คุณปุ้ย เจ้าของพูลวิล่า กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวค่อนข้างดีมาก แต่พอมาเจอแบบนี้ผลกระทบค่อนข้างหนักเหมือนกัน ทั้งตัวลูกค้า เจ้าของกิจการด้วย ซึ่งตนเองก็เป็นตัวแทนของหมู่บ้าน อยากมาบอกกับทุกคนว่า อย่าเพิ่งเหมารวมว่าเจ้าของจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ

ส่วนคำแนะนำอันดับแรก ขอให้ลูกค้าอย่างเพิ่งเห็นแก่ของถูก ให้คิดเปรียบเทียบหลายๆ เพจ อันดับสอง อย่าคิดว่าการมียอด หรือรีวิวเยอะจะน่าเชื่อถือ เพราะมันสามารถซื้อกันได้ ให้ดูว่าเปิดกิจการมากี่ปี มีการไลฟ์สดไหม มีเบอร์โทร.ไหม สำหรับมาตรการป้องกันการถูกโกง ให้เอาหน้าเพจที่จะจองที่พักไปโพสต์ลงในกลุ่มพูลวิลล่าก่อน เพื่อสอบถามคนในกลุ่มว่าเพจนี้เชื่อถือได้ไหม จะจองแล้ว ถ้ามีคนยืนยันก็ให้กดจองเลย

ด้าน คุณเฟิร์ส เจ้าของพูลวิลล่า เผยว่า แนะนำให้วิดีโอคอลคุยเลย เพราะมิจฉาชีพถ้าเป็นอะไรที่ซึ่งหน้าจะไม่กล้า ดังนั้นแนะนำให้หาข้อมูลเยอะๆ หน่อย ส่วนอีกอันนึงที่ลูกค้าทำ คือ ลูกค้าจะทักมาหาเรา ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน มาบอกว่ากำลังจะจองที่พักกับเอเจนต์คนนี้ ให้เราเช็กก่อนว่ามีไหม ถามีก็ค่อยกดจองได้เลย มันก็เหมือนเป็นหูเป็นตากันให้กัน ซึ่งล่าสุดในขณะนี้บรรดากลุ่มเจ้าของบ้านพักก็แจ้งความกับเพจที่แอบอ้างเรียบร้อยแล้ว


อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.