เป็นข่าวสะเทือนขวัญคดีแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวจีนเข้ามาก่อคดีฆ่ายัดศพนักศึกษาสาวชาวจีนอำพรางคดีเรียกค่าไถ่ ก่อนหลบหนีกลับประเทศจีน มีสาวไทยเป็นนกต่อร่วมวางแผนก่อเหตุฆาตกรรมสุดโหดเหี้ยม

นายจิน ลี่ผิง อายุ 48 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัยประเทศจีน พ่อของ น.ส.จิน ซ่าน อายุ 22 ปี นักศึกษาปีที่ 3 คณะดนตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ติดต่อลูกสาวไม่ได้ ประสานอาจารย์แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.ธรรมศาลา

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มองว่าเป็นคดีที่น่าสนใจ ผู้เสียหายเป็นหญิงชาวต่างชาติมาศึกษาอยู่ในประเทศ และการหายตัวไปมีเงื่อนงำน่าสงสัย ส่งชุดนักสืบมือดี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ลงพื้นที่ติดตามคดี ประสานข้อมูลใกล้ชิดกับพ่อเหยื่อหาสาเหตุการหายตัวไป พบว่าวันที่ 31 มี.ค. คนร้ายส่งข้อความและรูปภาพเหยื่อนักศึกษาสาวที่ถูกมัดมือมัดเท้าจากโปรแกรมวีแชตของ น.ส.จิน ซ่าน ให้เตรียมเงิน 5 แสนหยวน คิดเป็นเงินไทย 2.5 ล้านบาท ให้เวลา 3 ชม.นำเงินมาให้

ชุดสืบสวนทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกอุ้ม พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต.ธีรเดช ให้พ่อเหยื่อที่ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่โอนเงินมาจำนวนหนึ่งเป็นหลักฐานประกอบคดีเพื่อให้ความผิดในคดีสำเร็จ และเป็นช่องทางแกะรอยติดตามหาตัวเหยื่อหญิงสาวชาวจีนที่ถูกอ้างว่ามีการอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่

พล.ต.ท.ธิติ เร่งประชุมมอบหมายหน้าที่เพราะเชื่อว่าเหยื่ออยู่ในอันตราย ชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเย็น 28 มี.ค. ซึ่งเป็นเวลาสุดท้ายที่พ่อเหยื่อติดต่อลูกสาวได้ น.ส.จินมุ่งหน้าไปที่ห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนขึ้นรถเก๋งมาสด้า สีแดง ที่มีคนมารับหายตัวไป

...

ชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบรถเก๋งมาสด้า สีแดง มีชาวจีน 3 คน ต้องสงสัยขับเข้าออกภายในหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 38 ดีไลท์ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ชุดสืบสวนเชื่อว่า บ้านหลังดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาร่วมตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเก็บพยานหลักฐานโดยละเอียด

วันที่ 1 เม.ย. สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวคล้ายชาวจีนถูกฆ่ายัดใส่ถุงพลาสติกสายรุ้งโยนทิ้งอยู่ในร่องน้ำสวนบัว ริมถนนวัดต้นเชือกศาลายา ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายขวางสีน้ำเงินเทา นุ่งกางเกงขายาวสีครีม อายุ 25-30 ปี ผิวขาว ไม่พบเอกสารในตัวผู้ตาย สภาพศพเน่าเปื่อย ถูกสัตว์กัดแทะแขนขวาตั้งแต่หัวไหล่จนถึงมือ แขนซ้ายมีบาดแผลจากของมีคมฟันหลายแผล

มีเทปใสพันทับรอบคอ แผ่นหลังถูกไฟลน มีร่องรอยเขียวช้ำ ถูกทรมานหลายแห่ง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. รับรายงานเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีการหายตัวของนักศึกษาสาว สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงมาคุมการสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลงานสืบสวนภาค 1 เข้ามาร่วมสืบสวนคดี

พล.ต.ท.ธิติ พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต.ธีรเดช ตรวจที่เกิดเหตุและตรวจจุดพบศพผู้เสียชีวิต ผลการตรวจชันสูตรศพยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.จิน ซ่าน เหยื่อที่หายตัวไป และเสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่ 28 มี.ค.

ชุดสืบสวนตั้งประเด็นที่ว่า เหยื่อถูกฆ่า ก่อนส่งข้อความไปเรียกค่าไถ่ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น

ชุดสืบสวนพบข้อสงสัยการเสียชีวิต น.ส.จิน คนร้ายที่ก่อเหตุเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้วถึงมีการเรียกค่าไถ่กับพ่อของเหยื่อ ชุดสืบสวนให้พ่อของเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายเพื่อให้ความผิดสำเร็จ

ก่อนรวบรวมหลัก ฐานประสานทางการจีนเข้าย้อนรอยจับกุมผู้ต้องหายกทีม ชุดสืบสวน บช.น.ได้ข้อมูลผู้ก่อเหตุตั้งแต่สืบสวนไม่กี่วัน ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลหวังเข้าช่วยเหยื่อที่มองว่าเป็นคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ แต่พอลำดับเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายลงมือฆ่าเหยื่อทันที ก่อนทำทีเรียกค่าไถ่กับพ่อของเหยื่อ เพื่อเบี่ยงเบนคดีอำพราง

เข้ายึดรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง ทะเบียน 1 ขร 1472 กรุงเทพมหานคร มาจากคอนโดย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นรถที่ชาวจีน 3 คนเช่ามาจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย นายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี นายเฉิน ไซกัง อายุ 23 ปี และ นายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี ชาวเมืองเหอเป่ย ประเทศจีน แต่หลบหนีกลับประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.

ขยายผลสืบสวนพบว่า มีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง 1 ราย คือ น.ส.ชนิดา อายุ 19 ปี ทำงานคาราโอเกะ เป็นนกต่อ ให้คำแนะนำการฆาตกรรมกับ 3 ผู้ต้องหาชาวจีนและขับรถไปส่งผู้ก่อเหตุทั้ง 3 รายที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับและติดตามตัวมาสอบปากคำ

มูลเหตุคดีมาจากเรื่องชู้สาว คนร้ายกับผู้ตายรู้จักกันที่จีน ก่อนที่บินตามหาบังคับให้เหยื่อหญิงสาวให้มาร่วมหลับนอน เหยื่อไม่ยอมจึงถูกกักขังทรมานลงมือฆ่า แต่คนร้ายวางแผนทำให้เป็นคดีเรียกค่าไถ่เพื่ออำพรางคดี

ผบ.ตร.สั่งให้ตำรวจประสานไปยังประเทศจีนก่อนรวบตัวฆาตกรหนุ่มทั้ง 3 คน ทันทีที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ก่อนที่พ่อของผู้ตายจะเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อให้ปากคำพนักงานสอบสวน เปิดใจทั้งน้ำตาและขอบคุณตำรวจไทยที่ช่วยติดตามคดีจนประสานทางการจีนจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า “คดีกลุ่มแก๊งชาวจีนที่ฆ่านักศึกษาสาวชาวจีน ตำรวจสืบสวนติดตามประสานงานทางการจีนจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 3 ราย และหญิงไทยร่วมขบวนการ 1 ราย ให้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองส่งพนักงานสอบสวนร่วมสอบปากคำผู้ต้องหากับทางการจีนและประสานข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ โดยทางการจีนสามารถดำเนินคดีได้เองไม่ต้องส่งผู้ต้องหากลับมาไทย ตำรวจไทยจะรวบรวมหลักฐานโดยละเอียดส่งให้ทางการจีนเพื่อประกอบการพิจารณาคดีชั้นศาล และจะได้เรียกหารือกับ ผบช.สตม.วางแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาก่ออาชญากรรมในไทย”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ย้ำว่า “ประเด็นก่อเหตุคดีไม่ใช่การเรียกค่าไถ่แต่เป็นเรื่องการอำพรางคดีฆาตกรรม ทางการไทยประสานความร่วมมือกับจีนจับกุมผู้ต้องหาได้หมดแล้ว ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแฝงตัวมาก่อเหตุบ่อยครั้ง ใช้ช่องว่างนโยบายเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ต่อไป ตม.จะต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบประวัตินักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกประเทศมากกว่านี้ และตรวจสอบโดยละเอียด และ ตม.จะต้องไม่เอาคนร้ายเข้าประเทศไทย”

อีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญเหยื่อสาวชาวจีนถูกแก๊งคนร้ายชาวจีนวางแผนข้ามประเทศใช้ประเทศไทยก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางคดี ตำรวจไทยแสดงศักยภาพสืบสวนจนได้เบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้รวดเร็ว ก่อนตำรวจไทยประสานจีนรวบได้ยกแก๊ง ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้สมบูรณ์ ทวงคืนความยุติธรรมให้ครอบครัวผู้สูญเสีย

ผบ.ตร. “ขันนอต” ตม.เข้มข้นอาชญากรข้ามชาติหลบหนีและก่อคดีในไทย.

ทีมข่าวอาชญากรรม