ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน หลังจากกรณี “อัน อวี๋ฉิง” ดาราสาวชาวไต้หวันถูกตำรวจจับปรับ (รีด) ปมพกพาบุหรี่ไฟฟ้า ช่วงมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อเดือน ก.พ.66 ทำให้ประเด็น “บุหรี่ไฟฟ้า” ชวนเอ๊ะขึ้นมาอีกครั้ง หลายภาคส่วนอาศัยจังหวะนี้ออกมาเคลื่อนไหว
โดยเฉพาะ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมควบคุมโรค กรมศุลกากร และกรมการค้าต่างประเทศ เทกแอ็กชันสร้างความชัดเจน กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามมีไว้ครอบครอง ห้ามนำเข้า ห้ามขาย ห้ามสูบในที่สาธารณะ มีโทษจำหรือปรับ หรือทั้งจำและปรับ
แต่ปรากฏว่าขายเกลื่อนเมืองเย้ยกฎหมาย จิ้มสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง มีทุกแบรน์ดังทั่วทุกมุมโลกอัดโปรกระหน่ำให้ช็อป ซื้อง่ายขายคล่องยิ่งกว่ากล้วยทอด บรรดาสิงห์อมควันเผาปอดกันสบายใจไทยแลนด์ ที่น่าตกใจสิงห์อมควันบุหรี่ไฟฟ้าวัยกระทงอายุ 15 ปีขึ้นไป สำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้น ปี 2560 มีเพียง 11,096 คน พอปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 78,742 คน
ถึงขั้น นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท ที่เพิ่งได้รับการคัดเลือกได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติแพทย์จุฬาฯต้นแบบแห่งความสำเร็จ โอกาสครบรอบ 75 ปี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ผมได้แสดงความชื่นชมและยินดีกับท่านไป ท่านทำหน้าที่เป็นหมอดีทันที ขอให้สื่อมวลชนช่วยเขย่าให้สังคมได้ตื่นรู้ถึงพิษบุหรี่ไฟฟ้าร้ายแรงกว่าที่คิด
โดย ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และผู้ทรงวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่สัมมนากับ ภาคีเครือข่ายรณรงค์คนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือและ 14 จังหวัดภาคใต้ พบว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ นักสูบหน้าใหม่ เด็กนักเรียน วัยรุ่น และคนอายุน้อยที่สูบ ยังไม่มีความรู้ หรือเข้าใจที่ผิดๆเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
...
ขณะที่เด็กนักเรียน วัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลที่บิดเบือนจากการโฆษณาและส่งเสริมการขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านโลกออนไลน์ ฉะนั้น มีความจำเป็นเร่งด่วนส่งสัญญาณถึงพ่อแม่ ครู โรงเรียน สื่อมวลชน และชุมชนว่า ทำไมจึงต้องร่วมกันป้องกันลูกหลาน เด็กนักเรียน...ไม่ให้สูบบุหรี่ไฟฟ้า
อาทิ 1.การสูบของเด็กและวัยรุ่นนำไปสู่การเสพติดนิโคติน ส่วนใหญ่ติดแล้วเลิกยากมาก
2.นิโคตินมีอันตรายต่อสมองเด็ก–วัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต และ นิโคติน เป็นสารพิษควบคุม โดยกฎหมายควบคุมยาพิษ (Poison Act) ในหลายประเทศ อดีตใช้เป็นยาฆ่าแมลงทางการเกษตร ปัจจุบันห้ามใช้แล้ว
3.ในทางการแพทย์การเสพติดนิโคตินจัดเป็นโรคชนิดหนึ่งส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย และองค์การอนามัยโลก กำหนดรหัสโรคพึ่งพานิโคติน ต้องได้รับการรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์
4.การใช้นิโคตินในวัยรุ่น เพิ่มปัญหาสุขภาพจิต เพิ่มอาการซึมเศร้ามากขึ้น 2 เท่า ทำให้สมาธิ ความจำลดลง มีความลำบากในการตัดสินใจ
5.เด็กและเยาวชนที่สูบ มีความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนไปสูบบุหรี่ธรรมดา มากกว่าเด็กเยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้า 2-4 เท่า
6.นิโคตินส่งผลต่อสมอง มีความพร้อมที่จะรับสิ่งเสพติดชนิดอื่นเพิ่มขึ้นหลายเท่า
7.มีสารก่อมะเร็ง โลหะหนัก และสารเคมีอีกมากที่ยังไม่รู้ว่าส่งผลต่อร่างกายอย่างไรในระยะยาว
8.ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจ หลอดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด รหัสพันธุกรรมของเซลล์เปลี่ยนแปลง ปอดอักเสบรุนแรง และมะเร็งปอด
9.จากปากอดีตซีอีโอบริษัทขายบุหรี่ไฟฟ้า “ผมมีความชัดเจนกับลูกๆ อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีนิโคติน สารเสพติดอันตราย”
10.สาเหตุสำคัญที่ ทำให้เด็กไทยติดบุหรี่ไฟฟ้าคือ คนในครอบครัว เพื่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้าและมองว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดา–เคยสูบบุหรี่ธรรมดามาก่อน–เข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย
สินค้าเถื่อนบนผลประโยชน์มหาศาลปิดตาผู้มีอำนาจ ปล่อยให้ซื้อขายได้สะดวกโยธิน ทำร้ายลูกหลานของคนไทย ผมขอฝากความหวังที่รัฐบาลชุดใหม่และนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ช่วยปราบให้อยู่หมัดที.
“พายุบูรพา”