กรมสมเด็จพระเทพฯเสด็จฯแทนพระองค์ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภริยาเจ้าสัวเจริญมหาเศรษฐีชั้นนำของเมืองไทย หลังมะเร็งคร่าชีวิต รวมสิริอายุ 80 ปี เผยชีวิตสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสามี บุกเบิกธุรกิจค้าสุรา จนต่อยอดสร้างอาณาจักรไทยเบฟและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องครบครัน กลายเป็นหนึ่งในเครือธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

วงการธุรกิจสูญเสีย “คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” ภรรยาของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัททีซีซี และเครือไทยเบฟ หนึ่งในเครือธุรกิจชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้จากไปด้วยอาการสงบ โดยวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงวรรณา ภรรยาเจ้าสัวเจริญ มหาเศรษฐีชั้นนำของประเทศไทย ถึงแก่อนิจกรรมด้วยความสงบเมื่อเวลา 01.24 น.ด้วยวัย 80 ปี ที่ รพ.จุฬาฯ หลังเข้ารับการรักษาอาการโรคมะเร็งมาพักใหญ่ ท่ามกลางความโศกเศร้าของคนรอบข้าง

ด้านประวัติของคุณหญิงวรรณา สำเร็จการศึกษาวิชาการบัญชี จากพณิชยการราชดำเนิน และได้รับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และอีกหลายสถาบันชั้นนำรวม 8 สถาบัน

ทางด้านธุรกิจดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการกลุ่มไทยเบฟ ผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองประธานกรรมการบริหารแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กลุ่มธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ รองประธานกรรมการกลุ่มทีซีซี ที่เริ่มต้นพัฒนากิจการจากเล็กสู่ใหญ่ จากการขายสินค้าให้โรงงานสุรา พัฒนามาสู่การเป็นเจ้าของโรงงานสุรา จนได้รับสัมปทานโรงงานสุราทั้งหมดเมื่อเข้าสู่ยุคการค้าสุราเสรี ได้ประมูลโรงกลั่นสุราในนามกลุ่มแสงโสม

...

จากนั้นได้ขยายกิจการไปสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง เช่น เบียร์ แอลกอฮอล์ น้ำตาล บรรจุภัณฑ์ และอื่นๆ ตลอดจนได้เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น การลงทุนในกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล กลุ่มนอร์ธปาร์ค กลุ่มพันธ์ทิพย์ กลุ่มเกษตร รวมทั้งได้เข้าลงทุนในกิจการของกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ เช่น กลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และกลุ่มอาคเนย์ประกันภัย ประกันชีวิต เป็นต้น นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งกรรมการด้านสาธารณกุศลต่างๆ อาทิ กรรมการจัดหา และส่งเสริมผู้ให้โลหิตแก่สภากาชาดไทย กรรมการบริหารศิริราชมูลนิธิ กรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดี เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ได้บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม และประเทศชาติอีกมากมาย นับเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในงานวิชาชีพจนปรากฏเป็นที่ยอมรับ เป็นประโยชน์และแบบอย่างที่ดีแก่คนทั่วไป

สำหรับพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 17.30 น. ที่ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส และในเวลา 18.00 น. มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จากนั้นตั้งแต่วันที่ 18-23 มี.ค. เวลา 19.00 น. จะมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม วันที่ 24 มี.ค.เวลา 10.00-21.00 น. มีพิธีกงเต๊ก และวันที่ 25 มี.ค. ทำพิธีคำนับศพ